COLUMNISTS

เมื่อยนัก …. พัก ‘นวด’ ดีกว่า

Avatar photo
Longevity Inspirationist ผู้เชี่ยวชาญสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการรักสุขภาพ
2033

1

ด้วยภาวะพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่ใช้ชีวิตที่เร่งรีบ จึงมีผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพ แล้วที่แย่ไปกว่านั้น คือ การขาดการออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย จึงทำให้เราได้ยินบ่อย ๆ คือ ปัญหา ออฟฟิศซินโดรม ปวดกล้ามเนื้อต่าง ๆ สะสมกันจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนกลายเป็นโรคต่าง ๆ โดยที่ไม่ทันจะรู้ตัว

ดิฉัน เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบศิลปะการนวดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าได้หยุดงานยาวสักนิด แม้เพียงแค่ 2 วัน หนึ่งในตารางวันหยุดคือ พักผ่อนด้วยการนวดเธอราพี ที่ร้านสปาประจำ ไม่ว่าจะเป็นนวดกดจุด นวดเพื่อบำบัด นวดผ่อนคลาย และในบางครั้ง จะแถมด้วยการไปฝังเข็มต่อ (ไว้จะมาเล่าศาสตร์ฝังเข็ม ให้ฟังในคราวหน้านะคะ)

วันก่อน ได้อ่านเนื้อหาเกี่ยวกับการนวดเพื่อการผ่อนคลาย ของเพจ
www.verywell.com , https://goo.gl/KEiZkp เขียนได้น่าสนใจมาก จึงอยากนำมาแบ่งปันคุณผู้อ่านทุกท่าน ว่าน่าจะชื่นชอบการนวดเพื่อผ่อนคลายด้วยเหมือนกัน

ศาสตร์ศิลปะแห่งการนวดผ่อนคลาย ถือเป็นศาสตร์ภูมิปัญญาโบราณทั้งในประเทศไทย และได้รับอิทธิพลมาจากทางตะวันตก ที่ใช้ในการผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกาย วันนี้ ดิฉันขอหยิบมา 9 ชนิดศาสตร์การนวด ที่ฮิตติดอันดับทั่วโลก แน่นอนว่า คุณผู้อ่านน่าจะคุ้นเคยไม่มากก็น้อย เรามาดูกันค่ะ

1) การนวดแผนไทย
ขอจัดมาเป็นอันดับแรกเลยค่ะ นวดแผนไทย ถือเป็นศาสตร์การนวดที่ทั่วโลกยอมรับ โดยสังเกตจากชาวต่างประเทศที่แวะมาเยือนไทย แน่นอน ต้องมีหนึ่งวันแวะเยือนนวดไทยที่วัดโพธิ์ ทิวทัศน์สวย แถมสบายตัวด้วย การนวดแผนไทยโบราณ เป็นศาสตร์บำบัดโรคขนาดดีเยี่ยม และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นทั่วโลก โดยศาสตร์การนวดแผนไทย จะเน้นโดยการกดจุด การคลึง การดัด บีบจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย แถมบางครั้งจะมีการใช้ลูกประคบคลึง ควบคู่ไปด้วย การนวดแผนไทยโบราณ ถูกบรรจุเป็นตำรานวดแผนไทยในหลักสูตรที่ทางกระทรวงสาธารณสุขอนุญาตและยอมรับ จุดเด่นชัดของศาสตร์นวดแผนไทย คือ เทคนิคการจับเส้น ยิ่งถ้ามีอาการเมื่อยมาก และได้การจับเส้นที่ถูกจุด บอกได้เลยว่า ช่วยคลายความตึงเครียด ได้ดีทีเดียว

2

2) การนวดแบบสวีเดน (Swedish Massage Therapy)
การนวดแบบสวีเดน หรือ การนวดผ่อนคลาย นั่นเอง เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะร้านสปา ร้านนวด จะค่อนข้างนิยมกันมากสำหรับใช้ในการนวดผ่อนคลาย ประโยชน์ของการนวดแบบสวีเดน จะเป็นการนำเทคนิคการนวดที่สามารถเพิ่มออกซิเจนในเลือด และระบายของเสียออกจากกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่การนวดแบบสวีเดน จะเริ่มด้วยการชโลมน้ำมันบนร่างกาย นวดอย่างต่อเนื่องในแต่ละท่า อย่างช้า ๆ และเพิ่มแรงนวดลงมาที่ฝ่ามือแต่ไม่แรงมาก

3

3) การนวดด้วยอโรมาเทอราปี (Aromatherapy Massage)
การนวดด้วยอโรมาเทอราปี จะเป็นการใช้กลิ่นของน้ำมันระเหยสมุนไพรในการช่วยบำบัดผ่อนคลาย พร้อมกันการนวดแบบสัมผัสเพียงแผ่วเบา เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย โล่งโปร่งสบายตัว จะรู้สึกสดชื่น ด้วยกลิ่นน้ำมันระเหย ไม่ว่าจะเป็น
Asian Blend Body Massage Oil ช่วยกระตุ้นความสดชื่น
Sandalwood Body Massage Oil ช่วยผ่อนคลาย นอนไม่หลับ ช่วยระบบทางเดินหายใจ
Lavender Body Massage Oil ช่วยทำให้สดชื่น ผิวกระชับ
Brich Arnica Body Massage Oil ช่วยลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ

4

4) การนวดด้วยหินร้อน (Hot Stone Massage)
การนวดด้วยหินร้อน มีประโยชน์ในการช่วยลดอาการเครียด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของกล้ามเนื้อ ช่วยฟื้นฟู กระตุ้นกล้ามเนื้อ เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย แน่นอน พลังของหินนั้น ทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์มาแล้วว่า สสารประกอบด้วยโมเลกุล โมเลกุลประกอบด้วย อิเล็กตรอน ซึ่งการเคลื่อนที่นี่เอง ทำให้เกิดพลังงาน และหินที่นำมาบำบัด ต้องเป็นหินที่ได้จากภูเขาไฟ (Volcanic Stone) เพราะหินชนิดนี้ จะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและที่สำคัญ สามารถเก็บอุณหภูมิได้

5

5) การนวดเนื้อเยื่อส่วนลึก (Deep Tissue Massage)
การนวดเนื้อเยื่อส่วนลึก เป็นการนวดที่เน้นเนื้อเยื่อส่วนลึก เพื่อลดและคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ พังผืดที่แข็งเกร็งเป็นเวลานาน โดยนวดด้วยจังหวะช้า ๆ ลึก การนวดแบบนี้ อาจจะเจ็บปวดอย่างรุนแรงขณะนวด แต่การเจ็บนี้ จะช่วยให้มีการทำกรดแลคติกที่ตกค้างในกล้ามเนื้อ ช่วยคลายอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังได้

6

6) การนวดกดจุดแบบญี่ปุ่น (Shiatsu Massage)
การนวดกดจุดแบบญี่ปุ่น เป็นวิธีการนวดด้วยการกดนิ้วตามแบบโบราณญี่ปุ่น จึงคล้าย ๆ กับการนวดกดจุด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด หรือ ชี่ ในร่างกาย คำว่า ชิอัตสึ มาจากคำว่า ชี่ ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง นิ้ว และอัตสึ หมายถึง การกด เมื่อรวมคำกัน จึงหมายถึง การกดนิ้ว การบำบัดด้วยวิธีชิอัตสึ จะเป็นการใช้การลูบคลำท้อง และเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ในการวินิจพิเคราะห์ วินิจฉัยสภาพของบุคคล และสามารถระบุถึงชนิดของการบำบัด การสัมผัสแบบละเอียดอ่อน จะทำให้สามารถค้นหาความผิดปกติในการหมุนเวียนของเลือด หรือ น้ำเหลือง ได้ด้วย การบำบัดด้วยวิธี ชิอัตสิ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความตึงของกล้ามเนื้อ ได้ทั่วตัว บรรเทาอาการปวดเนื่องจากข้ออักเสบ บรรเทาอาการไซนัส ได้ดีอีกด้วย

7

7) การนวดผู้ตั้งครรภ์ (Pregnancy Massage)
การนวดผู้ตั้งครรภ์ ย่อมดีสำหรับผู้ตั้งครรภ์ (ชื่อก็บ่งบอกเป็นแน่แท้) แน่นอน เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น คุณแม่ก็ต้องรับน้ำหนักที่มากขึ้นตามไปด้วย วิธีนวดสำหรับคนตั้งครรภ์จึงสามารถช่วยผ่อนคลายให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ ลดอาการปวดเมื่อย เพิ่มการไหลเวียนเลือด และแน่นอน ต้องทำโดยผู้ชำนาญเท่านั้น หรือต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อน

8

8) การนวดกดจุดสะท้านเท้า (Foot Relflexology)
การนวดกดจุดสะท้านเท้า ถือเป็นการนวดที่เป็นที่นิยมมาก เท้าเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ต้องรองรับน้ำหนักของเรา ดังนั้น เราก็ต้องหันมาดูแลสุขภาพเท้า ไม่ว่าจะเป็นการนวดกดจุดส้นเท้า ฝ่าเท้า การนวดเท้า เป็นที่นิยมในประเทศไทย และไม่แปลกใจเลย ที่เราจะเห็น บริการนวดเท้า เยอะมาก แถบใจกลางเมือง หรือแหล่งช้อปปิ้ง ถนนคนเดิน เพราะเป็นวิธีการที่ง่าย เพียงแต่ผู้นวด มีความรู้เกี่ยวกับจุดต่าง ๆ บนฝ่าเท้า

9

9) การนวดเพื่อการกีฬา (Sports Massage)
จะสังเกตว่า ปัจจุบันบรรดานักกีฬาไทย ต่างเรียกหา บริการนวดเพื่อการกีฬา มากขึ้น โดยการนวดชนิดนี้ ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยการนวดจะแบ่งออกได้คร่าว ๆ 3 ช่วง คือ การนวดก่อนฝึกซ้อมกีฬา, การนวดระหว่างการทำฝึกซ้อม, การนวดหลังการฝึกซ้อมกีฬา โดยการนวดจะช่วยเพิ่มหน้าที่ของการทำงานกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้ในการทรงตัวอยู่ในสภาวะที่สมดุล

 

“คินน์ เพื่อชีวิตที่ยืนยาว และยั่งยืน”
www.kinn.co.th