Technology

เดินตัวเปล่า ก็จ่ายเงินได้ ด้วย ไบโอเมตริกซ์ เพย์เมนต์

หลายปีที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่ได้รู้จักและหันมาใช้จ่ายเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลายช่องทางมากขึ้น จากมาตรการกระตุ้นส่งเสริมของภาครัฐ อาทิ โครงการ Promptpay (พร้อมเพย์) ด้านภาคเอกชน ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ได้ออกมากระตุ้นการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการเปิดการชำระเงินผ่านระบบ QR Code เป็นต้น

พชร อารยะการกุล 1

 

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ระบุว่า ภาพรวมการชำระเงินของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา รูปแบบการชำระเงินได้มีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ ดิจิทัลเพย์เมนต์ อย่างเห็นได้ชัด โดยพบว่าการใช้บริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ย 116% ต่อปี

อย่างไรก็ดี จากสถิติพบว่าการใช้ อี-เพย์เมยต์ ต่อประชากร ในปี 2559 มีการใช้งานจำนวน 49 รายการ/คน/ปี ในปี 2560 พบมีการใช้งานเพิ่มเป็น 63 รายการ/คน/ ปี และในปีที่ผ่านมามีจำนวนการใช้งานเพิ่มเป็น 89 รายการ/คน/ปี โดยการใช้ ดิจิทัลเพย์เมนต์ ที่สูงขึ้นส่วนใหญ่ยังเป็นการใช้จ่ายด้วยเงินสด

จากสถิติยังพบปริมาณการใช้ ดิจิทัลเพย์เมนต์ เติบโตถึง 83% โดยในปี 2559 มีการใช้งาน ดิจิทัลเพย์เมนต์ 3,205 ล้านรายการ ในปี 2560 มีการใช้งานเพิ่มขึ้นเพิ่มเป็น 4,171 ล้านรายการ และในปี 2561 มีปริมาณการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นเป็น 5,868 ล้านรายการ โดยตัวเลข การทำธุรกรรมกับธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือ เติบโตสูงถึง 263%ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

Photo Bluebix 2

“เดินตัวเปล่า ก็จ่ายเงินได้ ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่ยุคสังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบในอีก 5 ปี แต่ซึ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นคือนวัตกรรมการจ่ายเงินที่ง่ายยิ่งกว่า คือการจ่ายเงินแบบไม่ต้องใช้เงินสด ไม่ต้องใช้บัตร ไม่ต้องใช้มือถือ นั้นก็คือ ไบโอเมตริกซ์ เพย์เมนต์ (Biometric Payment) ซึ่งเป็นการจ่ายเงินโดยใช้อัตลักษณ์ของผู้จ่ายเป็นสิ่งยืนยันตัวตน เช่น หน้าตา ลายนิ้วมือ เสียง ม่านตา เส้นเลือด เป็นต้น” นายพชรกล่าว

ประโยชน์ของการใช้จ่ายเงินแบบ ไบโอเมตริกซ์ เพย์เมนต์ คือผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจำรหัสลับ ไม่ต้องพกบัตร อุปกรณ์อื่น ๆ อย่างมือถือ แท็บเล็ต หรืออื่น ๆ เพื่อใช้จ่ายเงินอีกต่อไป ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการจับจ่ายได้มากขึ้น และทำให้การจ่ายเงินสามารถทำได้รวดเร็วและง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย นับเป็นการให้ประสบการณ์ในการจ่ายเงินที่ดีกว่ารูปแบบที่เคยมีอยู่เดิมให้กับลูกค้าและผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่ลูกค้าหรือผู้ใช้งานจะได้รับจะแตกต่างกันไปตามโหมดของการใช้งาน เช่น การใช้ลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นโหมดที่เป็นทางเลือกในการจ่ายเงิน แต่มีผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งซึ่งมากถึง 15% มีปัญหากับการใช้ลายนิ้วมือในการจ่ายเงิน และบางส่วนไม่เชื่อถือการใช้งานโหมดดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การนำ ไบโอ เพย์เมนต์ มาใช้งานจะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัย เพราะอัตลักษณ์ของแต่ละคนนั้นไม่ใช่ความลับ และอาจจะมีการพยายามทำเลียนแบบเพื่อโจรกรรมการใช้จ่ายจากเจ้าของตัวจริง ดังนั้นการพิสูจน์เพื่อให้บอกได้ว่าอัตลักษณ์นั้นเป็นของเจ้าตัวจริง ๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ความถูกต้องและการได้มาของข้อมูล ไบโอเมตริกซ์ รวมถึงองค์ประกอบทางเทคโนโลยี และการรักษาความลับของระบบข้อมูล เป็นสิ่งสำคัญมากในการทำระบบ ไบโอเมตริกซ์ เพย์เมนต์

Photo Bluebix 1

ข้อมูลการจ่ายแบบ ไบโอเมตริกซ์ เพย์เมนต์เป็นข้อมูลไม่เป็นความลับ แต่เป็นข้อมูลที่แสดงรูปพรรณสัณฐานของบุคคลและต้องได้รับการปกป้องตามกฎหมายที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนบุคคล สหภาพยุโรป หรือ EU ได้ให้แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไว้เมื่อปี 2555 โดยแนะนำว่า ข้อมูล ไบโอเมตริกซ์ ควรได้รับการดูแลว่าเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว มากกว่าเป็นเพียงแค่ข้อมูลส่วนตัว

ทั้งนี้เพื่อการใช้งานเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดและเกิดประโยชน์สูงสุด กลุ่มธุรกิจธนาคารจำเป็นต้องมีการลงทุนหรือหาพันธมิตรด้าน Biometric authentication เพื่อสร้างบริการการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพด้านการใช้งาน รวมทั้งมีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อความเป็นผู้นำด้านเพย์เมนต์ รวมทั้งลงทุนในการอบรมภายใน จับมือกับพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางดิจิทัล บิสซิเนส อีโคซิสเต็ม ของธนาคาร

นอกจากนี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมค้าปลีก ควรเริ่มศึกษาการนำ ไบโอเมตริกซ์ เพย์เมนต์ มาใช้ เพราะในอนาคต เมื่อมีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น การเตรียมพร้อมออกแบบกระบวนการการจ่ายเงินให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อจะกลายเป็นแต้มต่อทางธุรกิจ ช่วยสร้างความแตกต่างในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพิ่มความรวดเร็ว ลดระยะเวลาในการจ่ายเงิน ลดต้นทุนพนักงานลงได้ในที่สุด

Avatar photo