‘หวาย ปัญญริสา’ เปลือยชีวิตป่วยโรคแพนิค ปมโดนบูลลี่ตอนเด็ก

โดย Phanicha Sasukjit 29 พฤษภาคม 2562

เป็นสาวฮอตสุดเซ็กซี่ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี สำหรับ อดีตนักร้องสาวหวาย ปัญญริสา ที่ดูเหมือนว่าชีวิตของเธอจะแฮปปี้เอามากๆ แต่ใครจะรู้ว่าสาวหวายมีปมตอนเด็กๆ โดนเพื่อนๆ บูลลี่จนทำให้ป่วยเป็นโรคแพนิคกันเลยทีเดียว

ล่าสุด สาวหวาย ควงคุณแม่ มาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บSHOW ทางช่อง ONE31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกร

ชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

หวาย : ว่างมากค่ะ มันก็มีงานเข้ามาบ้าง แต่เหมือนว่าหลาย ๆ คนยังไม่ทราบว่าตอนนี้หวายออกช่องไหนก็ได้ รับงานอะไรก็ได้แล้ว

ล่าสุดเห็นว่าเปลี่ยนชื่อใหม่?

หวาย : ใช่กำลังเปลี่ยนอยู่เลย เพราะหลายคนทักมาว่าทำไมชื่อสะกดแบบนี้ ชื่อเดิมชื่อว่า ปัญญริสา ซึ่งเป็นชื่อที่พี่แหวน (แหวนแหวน ปวริศา) ตั้งให้ คุณแม่เห็นว่าชื่อใกล้กันก็เลยโอเค แต่พอหนูไปหาพระอาจารย์ก็โดนทักมาอีกว่าทำไมชื่อเราสะกดแบบนี้ ซึ่งพอคนทักเยอะๆ เราก็คิดว่าเปลี่ยนดีไหมก็เลยปรึกษาคุณแม่ คุณแม่ก็เลยบอกว่าเอาที่เราสบายใจ

คนส่วนใหญ่จะเปลี่ยนชื่อเวลามีปัญหา น้องมีปัญหาอะไรไหม?

แม่ : จริงๆ ไม่ได้มีปัญหาหรอกนะ แต่คนทักไม่ดีมานานแล้ว เราก็ไม่เป็นไรเพราะเราชอบชื่อนี้ แต่พอเราเอาชื่อนี้ไปปรึกษาคนที่พอรู้เรื่องนี้ เขากฌบอกว่าจริงๆ ไม่ดีควรจะเปลี่ยนเลย

หวาย : คือชื่อไม่ดี แล้วความหมายเท่าที่อ่าน หนูจะเจ็บบ่อย จะไม่สบายบ่อย คือตั้งแต่หนูเกิดมาหนูเข้าโรงพยาบาลหลายรอบมาก

หรือที่เปลี่ยนชื่อเพราะต้องการเสริมดวงเรื่องความรัก?

หวาย : ไม่เลย คือที่อยากเปลี่ยนเป็นเพราะสุขภาพร่างกาย ความรักนี่แฮปปี้ดี๊ด้ามาก

คบกันมากี่ปีแล้ว?

หวาย : 4 ปีแล้ว

แม่เจอมิโน่มากี่ปีแล้ว?

แม่ : ก็ 4 ปีแล้ว เขารู้จักกันก่อนที่จะคบกันเป็น 10 ปีเลย ตอนนั้น มิโน่อายุ 15 ปี ตอนนั้นเขาเอารูปมาให้ดู เขาเป็นเพื่อนกันมากแล้วก็หายไปแล้วกลับมาเจออีกทีนึง

หวาย : คือเจอกันครั้งแรกเขาบอกหนูว่าน่ารักมาก จีบได้ไหม เราก็งงๆ เพราะเพิ่งเจอ หนูก็เลยแบบรอก่อนนะจ๊ะ ก็เลยคุยเป็นเพื่อนกันมาตลอด

คนนี้เขาน่ารักกับแม่ยังไง แม่เจอเขาบ่อยไหม?

แม่ : เขาน่ารักค่ะ แต่แม่ชอบประมาณทุกคน คือเราเอ็นดูเด็ก

แล้ววันที่น้องมาบอกว่ามีแฟน ตอนนั้นน้องอายุเท่าไหร่?

แม่ : 14 ปี ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไรมาก เราทำให้เขาเห็นเลยว่าไม่เป็นไร เพราะไม่งั้นเขาจะไม่บอกเรา

หวาย : คือแม่เลี้ยงหนูแบบเปิดมาก หนูไม่โกหกแม่ ไม่ว่ามีอะไรก็บอกแม่คนแรก เพราะเวลาแม่ฟังแม่จะไม่ว่าเราก่อน เขาจะทำเป็นชิลแล้วค่อยมาสอน

แล้วมีเรื่องไหนที่น้องบอกแล้วแม่ไม่โอเคบ้าง?

หวาย : มีเรื่องทำหน้าอกไง

แม่ : ตอนนั้นก็เฉยๆ เขาบอกว่าเขาทำเพื่อเพิ่มความมั่นใจ อยากสวย เราก็บอกว่าไม่เห็นต้องทำ แต่ก็ไม่เป็นไรก็เรื่องของเขา

ถ้าเขามาบอกแม่ว่าพร้อมแต่งแล้ว แม่ว่าไง?

แม่ : ก็แล้วแต่เขา แต่แม่ก็จะบอกว่าตอนนี้เร็วไป ถ้าถามแม่ว่าอายุเท่าถึงจะพร้อมก็ 35 ปี แต่คงจะไม่หรอก เพราะเขาคงไม่รอ

หวาย : ถามว่าปีหน้าแต่งเลยไหม ก็ยัง แต่ว่าเราไม่อยากแต่ง 35 ไง ก็อยากแต่งก่อน 35 แค่นั้นเอง

การที่เราเป็นตัวของตัวเอง อยากพูดอะไรก็พูด กลัวคนอื่นมองว่าเราแรงไหม?

หวาย : ก็กลัวนะคะ อย่างเมื่อก่อนเราคิดตลอดว่าทำไมเขาคิดแบบนี้กับเราได้ ทำไมเขาไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เข้าใจว่าทุกคนมีสิทธิที่จะคิดอะไรก็ได้ ถ้าสมมุติเขาชอบเราในแบบนี้ก็โอเค

ตอนเด็กหวายโดนบูลลี่ยังไง?

หวาย : โดนหนักมาก เมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่ได้อินกับคนดังในโรงเรียน จะอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่รัก ซึ่งวันที่เกิดเรื่องมันเป็นวันวาเลนไทน์เดย์ มีรุ่นพี่ส่งตุ๊กตามาให้เรา แล้วปกติเราไม่ได้ ทุกคนก็เลยแบบทำไมเราถึงได้ แล้วรุ่นพี่ทำไมถึงให้ ซึ่งรุ่นพี่คนนี้โตกว่าหนูแค่ปีเดียวเอง แล้วเขาไม่ชอบที่เห็นใครมาบูลลี่เรา เขาก็ช่วย แต่กลายเป็นว่าทุกคนยิ่งเข้าหาเรา

บูลลี่โดนอะไรบ้าง?

หวาย : โดนทั้งผลัก มาถึงหน้าบ้าน เขียนว่า ตอนหนูประมาณ 12-13 ปี ตอนนั้นก็เสียใจมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเพื่อนที่สนิทที่สุดก็ทิ้งเราไปหมด กินข้าวคนเดียว ตอนนั้นเรารู้สึกไม่ดีก็เลยไปกินข้าวในห้องน้ำ แล้วอาจารย์มาเจอ เขาก็ถามว่าทำไมมากินแบบนี้เราก็อธิบายให้เขาฟัง เขาก็เลยให้หนูมาทานข้าวกับเขาทุกวัน หนูก็เลยได้กินข้าวในห้องแอร์เย็นๆ คุยกับครูทุกวันก็โอเค แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นมันแย่ลงมากๆ พยายามจะบอกแม่ จริงๆ เรื่องนี้เป็นอย่างเดียวที่ไม่อยากบอก เพราะกลัวเขาเสียใจ คือตอนแรกที่บอกแม่คือบอกว่าไม่อยากอยู่โรงเรียนแล้ว อยากออก แล้วแม่ก็คิดว่าถ้าเราไปโรงเรียนอื่นเราก็ยังเจอแบบนี้

คุณแม่เอาลูกออกจากโรงเรียน?

แม่ : ตอนแรกพยายามบอกว่าไปที่อื่นก็ต้องมีแบบนี้ ถ้าเราไปก็เหมือนเราหนี ก็จะกลายเป็นว่าเราต้องหนีไปเรื่อยๆ เราต้องทำใจ ซึ่งเราให้เขาอยู่ต่ออีก 2 ปี

แล้วโรคแพนิคมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

หวาย : ตอนแรกเป็นซึมเศร้าก่อน ตอนอายุ 14 ปี แล้วก็เป็นมาเรื่อยๆ

แม่ : ตอนแรกเราไม่รู้เรื่องเลย เขาเองก็ไม่รู้เรื่อง ตอนแรกเขาก็เป็นลมไปเลย เป็นหลายครั้งมาก พอครั้งที่สองมือเริกหงิกเหมือนกับชัก ปัจจุบันก็ยังไปหาหมอ และทานยาอยู่ทุกวัน