COLUMNISTS

ความเชื่อของ ‘หงส์แดง’ เปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้

Avatar photo
Consulting Partner สลิงชอท กรุ๊ป
1679

ใครจะเชื่อว่าสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลจากอังกฤษ จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถ้วยสโมสรยุโรปที่มีอายุเก่าแก่ถึง 64 ปีได้ หลังจากที่นัดแรกพวกเขาในฐานะทีมเยือนโดนบาร์เซโลน่ายอดทีมจากสเปน นำโดยลิโอเนล เมสซี่ นักเตะต่างดาวอัดเละเทะไป 3 ประตูต่อ 0

000 1G95JE

สื่อกีฬาบางสำนักวิเคราะห์อย่างไม่เกรงใจว่า มีโอกาสแค่ 3% ที่หงส์แดงจะกลับมาคว้าชัยชนะเกิน 3 ประตูในนัดที่สอง แต่เมื่อคืนวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ปาฎิหาริย์แห่งสนามแอนฟิลด์ที่เต็มไปด้วยสาวกลูกหนังจำนวน 55,212 คน ต้องตกตะลึงหลังจบ 90 นาที เพราะเจ้าถิ่นสามารถพลิกชนะกลับมาโบยบินได้อีกครั้งถึง 4 ประตูต่อ 0

แม้ก่อนเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018-2019 นัดที่สองจะเกิดขึ้น ผู้หลงรักฟุตบอลเกินครึ่งโลกจะไม่เชื่อว่า เครื่องจักรสีแดงแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่จะโกงความตายกลับมาเกิดใหม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ความเชื่อสำหรับชายไว้เคราที่ชื่อ เจอร์เกน คล็อปป์ โค้ชจอมเพรสซิ่งที่หลงใหลสไตล์การวิ่งบดขยี้เข้าหาคู่แข่งประหนึ่งฝูงปิรันย่าพุ่งเข้าหาเหยื่อ

ก่อนเริ่มเกมเขาบอกกับลูกทีมในห้องแต่งตัวว่า “จงเชื่อมั่น เอามันไปอยู่ในความคิดของพวกคุณว่า เราสามารถทำมันได้ ถ้าได้หนึ่งหรือสองประตู หรือแม้แต่ยิงไม่ได้ใน 15 หรือ 20 นาทีแรก ก็จงเชื่อมั่นว่า นาที 65, 66, 67 เราจะทำประตูได้ จากนั้นสาวกของเราในแอนฟิลด์ก็จะหนุนเรา จงมีความเชื่อว่า เราสามารถทำได้”

ถ้าโค้ชที่ยืนอยู่ข้างสนามคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จในเกมฟุตบอล ผู้นำขององค์กรที่ยืนอยู่ท่ามกลางพนักงานก็คือส่วนหนึ่งของความสำเร็จในเกมธุรกิจ

การเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อพลิกสถานการณ์จากผู้ตามให้กลับมาเป็นผู้นำ ต้องอาศัยความเชื่อของผู้นำ และความสามารถในการถ่ายทอดความเชื่อนั้นไปสู่สมาชิกในองค์กรให้ฮึกเหิมและมีความเชื่อแบบเดียวกัน

ผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้องรู้และเข้าใจ 3 สิ่งดังต่อไปนี้

  1. ต้องรู้ว่าเป้าหมายที่ท้าทายนั้นคืออะไรและดึงเอาฝันที่ต้องการเห็นออกมาให้ได้เสียก่อน (Dream)
  2. จากนั้นวิเคราะห์ว่าในโลกแห่งความเป็นจริงอะไรคืออุปสรรคที่อาจทำให้ไปไม่ถึงฝัน (Obstacle)
  3. สุดท้ายต้องเตรียมตัวและวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะผ่านอุปสรรคนั้นด้วยวิธีใด (Plan)

ถ้าลิเวอร์พูลแสดงให้โลกเห็นว่าความเชื่อสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ ทำไมผู้นำอย่างคุณจะทำบ้างไม่ได้