“กกร.” คงกรอบจีดีพีปีนี้ขยายตัวที่ 3.7 – 4% ขณะที่ส่งออกโต 3 – 5% สั่งจับตาการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คาดช้าสุดไม่เกิน ก.ค.นี้
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า คาดว่าจะมีการตั้งรัฐบาลใหม่ภายในเดือนมิถุนายนนี้ หรืออย่างช้าที่สุดไม่น่าจะเกินเดือนกรกฎาคม ซึ่ง กกร.จะนำเสนอสมุดปกขาว หรือ White Paper เพื่อนำเสนอสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลช่วยดำเนินการในการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ของประเทศให้ได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และ Ease of Doing Business หรือความยากง่ายในการทำธุรกิจด้วย ตลอดจนเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ต้องการให้รัฐบาลจัดประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) โดยมีการประชุมอย่างน้อย 3 เดือนครั้ง
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังที่ออกมาล่าสุด ทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและมาตรการด้านภาษี นั้น กกร.มองว่าเป็นมาตรการช่วยประคองเศรษฐกิจในช่วงรอยต่อทางการเมืองได้ระดับหนึ่ง แต่ทิศทางการใช้จ่ายภายในประเทศหลังจากนี้โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ยังคงต้องรอความชัดเจนทางการเมืองและนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
ส่วนช่วงที่เหลือของปี 2562 ที่ประชุม กกร. มองว่าแนวโน้มการส่งออกของไทยจะยังคงถูกกดดันจากทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ทั้งจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐ จีน สหภาพยุโรป, ประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มจะกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งหลังทางการสหรัฐ เตรียมประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ หากการเจรจาไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนทิศทางค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวน ส่งผลให้ตลอดปีคาดว่าการส่งออกจะโต 3-5% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเสี่ยงจากประเด็นการค้าโลกและปัจจัยภายในประเทศดังกล่าว กกร.จะติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ที่ประชุม กกร.ยังคงกรอบประมาณการเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยปี 2562 ไว้ตามเดิม โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวประมาณ 3.7 – 4.0% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 0.8 – 1.2% อย่างไรก็ตาม กกร.ยังมองว่าท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง แม้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงตาม แต่เศรษฐกิจไทยจะไม่เสียหาย ขณะที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจภายในโดยรวมน่าจะดีขึ้น
