General

‘ดี้ นิติพงษ์’ เผยความรู้สึกต่อ พระอิริยาบถของสองพระองค์ ในสองรัชกาล

“ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nitipong Honark โดยระบุข้อความดังนี้

batch ดี้ นิติพงษ์ ภาพ 01

“ภาพนี้…คนที่นำสองรูปนี้มาเปรียบกัน..ช่างมีอารมณ์ละไมนัก…สถาบันกษัตริย์ของไทย ได้มีการปรับโดยธรรมชาติ ด้วยวันเวลาและยุคสมัย…มาตลอดจากเมื่อหลายร้อยปีก่อน…ต้องหมอบคลานเข่าอย่างเดียว…ก้มหน้าก้มตาเข้าเฝ้า…ห้ามบังอาจเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์ สบพระเนตรเป็นอันขาด…

จะพูดจะจาอะไรกับพระเจ้าแผ่นดิน…ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นเรื่องดี..หรืออาจไม่เป็นที่พอพระทัย….ต้องออกตัวไว้ก่อนเลยว่า…พระอาญาไม่พ้นเกล้า…เพราะพูดกันไปเองในหมู่ไพร่ฟ้า…ว่า พระเจ้าแผ่นดินสั่งตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรได้….

ในสมัยก่อนนู้น…ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน…ทั้งรัก ทั้งกลัว ทั้งเกรง พระเจ้าแผ่นดิน…แม้จะยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า พระเจ้าแผ่นดินพระองค์จริงนั้นพระพักตร์เป็นอย่างไร….แค่ได้ยินพระนาม ก็ยกมือท่วมหัว….ทั้งรักทั้งกลัว…

วันเวลาผ่านไป…เทคโนโลยีเพิ่มขึ้น…มีการถ่ายรูป การได้ยินข่าวคราวของเจ้าเหนือหัว..ก็มีมากขึ้น…ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้ามา…ข้าแผ่นดินเริ่มรู้จักเจ้าแผ่นดินมากขึ้น…มากพอที่จะรัก แบบที่กลัวน้อยลง…รู้สึกมีที่พึ่ง…แต่ก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป…โดยธรรมชาติ…

จนมาถึงสองแผ่นดินนี้ คำว่า จงรักภักดี เริ่มเปลี่ยนสีสัน…พสกนิกร…รักในหลวง เหมือนญาติผู้ใหญ่ รักพระบรมวงศานุวงศ์ เหมือนเป็นพี่ เป็นน้อง แต่ความเคารพบูชาในใจไม่เคยเปลี่ยน..เคารพเพราะรู้สึกได้ว่า…นี่แหละที่พึ่งพิง ไม่กลัวเจ้านายแบบเดิม ๆ อีกแล้ว…เพราะรู้ว่า…ท่านไม่ได้ใจร้ายให้ต้องกลัว…

ถึงยุคนี้…มีความรู้สึกของอาณาประชาราษฎร์ที่เกิดขึ้นใหม่กับสถาบันฯ….นอกจากคำว่า “ทรงพระเจริญ” แล้ว…นอกจากคำว่า “จงรักภักดี”…แล้ว ยังมีอีกหลายคำจากหัวใจ…แต่กลัวว่าจะมิบังควร…

batch ดี้ นิติพงษ์ ภาพ 02

แต่ในที่สุด ธรรมชาติก็จะเปลี่ยนแปลงเอง…”ทรงพระน่ารัก”…”ทรงพระตลก…” “ทรงอึดจัง…” “สงสารพระองค์ท่านจัง”…

นี่คือการพร้อมใจกันจงรักภักดีแบบไฮบริด…คือทั้งรัก รักแบบตายแทนได้เหมือนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน..แต่ไม่ได้กลัวตัวสั่นอีกแล้ว..เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องกลัวเจ้าเหนือหัวผู้ทรงมีเมตตาต่อพวกเราตลอดเวลา…และเป็นยุคใหม่ที่…พสกนิกรที่เคยเอาแต่ขอเดชะ…บารมีปกเกล้าให้คุ้มภัยตน..จะเปลี่ยนมาเป็นพสกนิกร…ที่ปกป้อง ให้กำลังใจให้กับองค์สมมติเทพ…ที่แท้จริงแล้วคือมนุษย์มีเลือดเนื้อ…ท่านหิว ท่านเหนื่อย ท่านง่วง ท่านมีผิดพลาด ท่านเหาะไม่ได้ ฯลฯแล้วท่านก็ทรงมีโอรส ธิดา ที่เป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ แต่เป็นคนยุคใหม่ตามเวลา…ซึ่งนั่นแหละ จะเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงแบบธรรมชาติ…

เมื่อเจ้านาย…ยังมีภาระใหญ่หลวงเท่าเดิม..เท่ารัชกาลก่อนหน้า…คือการดูแลอาณาประชาราษฎร….แต่ต้องปรับพระองค์ให้ใกล้ชิดราษฎรมากขึ้น…โอรส ธิดา…จะทรงทำหน้าที่นี้เองโดยธรรมชาติ…

ยุคนี้…สถาบันกษัตริย์…จักแข็งแรงยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา จะผนึกแน่นกับความรู้สึกของลุงป้าน้าอาพี่น้องในความเป็นไทย…มีคนเล่าว่า…ในขบวนเสด็จเลียบพระนคร…เดิมมีการสั่งการมิให้ประชาชนถ่ายรูปในหลวง เพราะเป็นการมิควร…แต่ด้วยยุคที่มีกล้องกันทุกคนในกระเป๋า….เจ้าหน้าที่มิอาจห้ามความรักของพสกนิกรได้…นั่นไง….รักในหลวง..รู้ว่าในหลวงใจดี..อยากถ่ายรูปในหลวงสักครั้งในชีวิต..

ความรัก…มีพลังยิ่งใหญ่กว่าความกลัว…ความศรัทธา..มีพลังยิ่งใหญ่กว่าความเกรงเมื่อรักและศรัทธา…ก็จะกลายเป็นพลังที่พสกนิกรจะปกป้องเจ้านายได้

เจ้านายเหนื่อยปกป้องเกล้าป้องกระหม่อมพวกเรามานานแล้ว…ให้ท่านได้เป็นธรรมชาติ…น่ารัก น่าเอ็นดู บ้างดีไหม..ดูรูปนี้แล้ว…รู้สึกเอ็นดูพระเทพฯไหม…ที่ถูกดุรู้สึกน่ารักไหม…ที่ท่านหญิงฯ ยังทรงเฮ้ว จนเสด็จพ่อทรงขำ…ถ้ารู้สึกเหมือนกัน…ถูกแล้ว….เธอเป็นพสกนิกรไทยใจดี….”

ที่มา เฟซบุ๊ก : Nitipong Honark

Avatar photo