คดี “เงินทอนวัด” เป็นหัวข้อที่ผู้คนพูดถึงกันอย่างมาก เมื่อมีการออกมาเปิดโปงกันเป็นครั้งแรกราวกลางปี 2560 ก่อนที่เรื่องราวจะค่อยๆ เงียบหายไปจากความสนใจของผู้คน
จนกระทั่งวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา คดีทุจริตในวงการสงฆ์เรื่องนี้ ก็กลับมาเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจกันอีกครั้ง เมื่อตำรวจกองปราบเปิดปฏิบัติการบุกวัดดังหลายแห่งพร้อมๆ กัน พร้อมเชิญตัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ที่เกี่ยวข้องกับคดี มาสอบปากคำที่กองปราบปราม
ก่อนที่จะนิมนต์พระผู้ใหญ่มาทำพิธีลาสิกขาบทให้กับทั้งหมด หลังศาลไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน และให้เปลี่ยนใส่ชุดสีขาว นำตัวส่งให้เจ้าหน้าราชทัณฑ์ควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลมาจากการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะสางเรื่องราวการทุจริตในวงการสงฆ์ครั้งใหญ่ และยาวนานกันมาข้ามปี ซึ่งรูปแบบการทุจริตที่เกิดขึ้นนั้น มีทั้งจากเงินอุดหนุนเพื่อการบูรณะปฏิสังขรณ์วัด เงินอุดหนุนเพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรม และเงินอุดหนุนเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
การกวาดล้างระลอกล่าสุด เรียกความสนใจได้อย่างมาก เพราะเหล่าพระสงฆ์ที่ตกเป็นผู้ต้องหานั้น ล้วนแต่เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีลูกศิษย์ลูกหา และมีผู้ให้ความเคารพนับถือจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดล้วนโดยข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกจับกุมในการตรวจสอบครั้งนี้ ประกอบไปด้วย
- พระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
- พระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
- พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
- พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
- พระอรรถกิจโสภณ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพฯ วัดสระสามพระยา
นอกจากนี้ ยังมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีก 2 รูปที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม คือ
- พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) หรือ เจ้าคุณธงชัย เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัย 62 ปี 41 พรรษา
- พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม อายุ 77 ปี 57 พรรษา
ย้อนรอยคดี “เงินทอนวัด”
ปี 2560
- 3 มิถุนายน พระครูใบฎีกา อนันต์ เขมานนฺโท เจ้าอาวาสวัดห้วยตะแกละ จังหวัดเพชรบุรี เข้าร้องเรียนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรณีข้าราชการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ขอเงินสร้างพระอุโบสถกลับไปถึง 10 ล้านบาท โดยวัดได้รับเงินจริงเพียง 1 ล้านบาท
- 19 มิถุนายน ปปป.ตรวจพบการทุจริตแบบเดียวกัน 12 วัด ในหลายจังหวัด มีข้าราชการ พศ.และพลเรือนทุจริต 10 คน มูลค่าความเสียหาย 60 ล้านบาท
- 26 กันยายน ปปป. ตรวจสอบพบการทุจริตในอีก 23 วัด โดยพบว่า มีการทอนเงินกลับไปยังผู้บริหารระดับสูงพศ.มากสุดถึง 30 ล้านบาท และน้อยสุดที่ 500,000 บาท วัดที่ได้รับความเสียหายมากสุดส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร พบข้าราชการ พศ.ทุจริต 13 คน พระสงฆ์ 4 รูป และพลเรือน 2 คน มูลค่าความเสียหาย 141 ล้านบาท
ปี 2561
- 19 เมษายน ปปป.ตรวจพบทุจริตเงินทอนวัดอีก 10 วัด เปิดเผยรายชื่อเพียง 3 วัด คือ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสัมพันธวงศาราม และวัดสามพระยา ข้าราชการ พศ.ที่ร่วมทุจริตยังเป็นกลุ่มเดียวกับที่ตรวจพบ 2 ครั้งก่อน ซึ่งครั้งนี้นับเป็นการตรวจสอบพระเถระชั้นผู้ใหญ่ วัดดังในกรุงเทพฯ ถึง 5 รูป คือ
พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาคที่ 4 -7
พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส 2 รูป คือ พระเมธีสุทธิกร และ พระวิจิตรธรรมาภรณ์
ส่วนอีก 7 วัดที่เหลือ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งหมดได้เงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ปี 2556 พระภิกษุสามเณร 2,500,000 รูป 72 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยวัดละ 10 ล้านบาท - 20 เมษายน ปปป.ส่งสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัด ที่ตรวจพบทั้ง 3 รอบ ให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบมูลค่าความเสียหายกว่า 270 ล้านบาท
- 19 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม นำหมายค้นเข้าตรวจสอบที่บ้าน ร.ท.ฐิติทัศน์ นายทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) หลังพบมีการโอนเงินงบเผยแพร่พระพุทธศาสนาวัด 12 แห่ง ไปยังแม่บ้านของ ร.ท.ฐิติทัศน์ และบัญชีของตัวเอง แต่วัดทั้ง 12 แห่งไม่ได้รับเงิน
ทั้งยังพบว่าเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ได้โอนเงินจำนวน 25 ล้านบาท เข้าบัญชีแม่บ้านของ ร.ท.ฐิติทัศน์ เช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนและออกหมายศาลเข้าตรวจค้นวัดสระเกศฯ - 23 พฤษภาคม ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เจ้าคณะภาค 10 และพระอีก 3 รูปของวัดสระเกศ ได้แก่ พระศรีคุนาภรณ์ หรือพระมหาบุญทวี คำมา พระครูสิริวิหารการ และพระครูวิจิตร ธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ฐานร่วมความผิดคดีความผิดฟอกเงิน
- 24 พฤษภาคม ตำรวจกองปราบเข้าตรวจค้นวัดสระเกศฯ นิมนต์พระ 4 รูปไปรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงิน ไม่พบตัวพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัด ตรวจสอบเงินในบัญชีเจ้าอาวาส พบเงิน 132 ล้านบาท และยังพบการโอนเงินให้ฆราวาส 69 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเข้าค้นวัดอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร วัดสามพระยา และวัดอ้อน้อย เพื่อนิมนต์พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เข้ามาสอบสวนที่กองปราบ
พระพุทธะอิสระเจอข้อหาหนัก
ในกรณีของพระพุทธะอิสระ หรือพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐมนั้น ถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และแอบอ้างเบื้องสูงปลอมพระปรมาภิไธย ซึ่งศาลไม่ให้ประกันตัวเช่นเดียวกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ทำให้ต้องลาสิกขาบท และถูกนำตัวส่งให้เจ้าหน้าราชทัณฑ์ควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
‘ราชทัณฑ์’ ยันไร้วีไอพีดูแลพระชั้นผู้ใหญ่เท่าเทียม!!
นายกฯ ขอโทษแทนตำรวจบุกจับ ‘พุทธะอิสระ’