“คมนาคม-ศิริราช” ลงนามความร่วมมือผุดสถานีรถไฟฟ้ากลางโรงพยาบาล หวังอำนวยความสะดวกผู้ป่วย หนุนการผ่าตัดแบบไปเช้าเย็นกลับ “อาคม” ตั้งเป้าใช้เป็นโมเดลพัฒนารถไฟฟ้าโครงการอื่นต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ค.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ลงนาม “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าศิริราชและอาคารรักษาพยาบาล”
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันวางแผนในการพัฒนาสถานีรถไฟฟ้าศิริราช เนื่องจากสถานีศิริราชเป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งด้านการคมนาคม เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ด้านสาธารณะสุข คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลก็มีความจำเป็นในการขยายพื้นที่รักษาพยาบาล การศึกษา และการวิจัย
ในวันนี้ การรถไฟฯ, รฟม. และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงร่วมกันจัดทำบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อร่วมกันส่งเสริม สนับสนุน และประสานความร่วมมือ ในการดำเนินงานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าศิริราชและอาคารรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลศิริราช
โดยทั้ง 3 ฝ่ายจะหารือและตกลงร่วมกันในเรื่องการออกแบบ รูปแบบ ขอบเขตความรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายและแผนการดำเนินงาน ภายใต้กฎหมาย กฎ และคำสั่งอื่นๆ ที่ใช้อยู่ของทั้ง 3 ฝ่าย รวมทั้งกฎหมาย กฎ และคำสั่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายอาคม กล่าวว่า อาคารรักษาพยาบาลของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จะเป็นอาคารสูง 15 ชั้น โดยก่อสร้างคร่อมสถานีศิริราชของโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน – ศิริราช และสามารถเดินเชื่อมต่อกับโถงของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี
ขณะเดียวกันสถานีศิริราชตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย จึงควรมีการขยายท่าเรือเพื่ออำนวยความในการเดินทางสะดวกให้กับประชาชนและผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ริมคลอง ซึ่งในอนาคตทางโรงพยาบาลก็จะจัดให้มีบริการเรือพยาบาลฉุกเฉิน (boat ambulance) เพิ่มเติมด้วย
“สถานีนี้เป็นสถานีแรก ที่รวมการเดินทางและการรักษาพยาบาลเข้าด้วยกัน ชานชาลาอยู่ใต้อาคารเลย สถานีที่เชื่อมต่อกับอาคารแบบนี้มีเยอะในต่างประเทศ แต่ประเทศไทยยังไม่เคยมี สถานีศิริราชจึงจะเป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่สถานีขนส่งมวลชนสำหรับโครงการอื่นๆ ต่อไป” นายอาคมกล่าว
สำหรับความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนั้น ล่าสุดรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช จะเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาในปีนี้และเปิดให้บริการในปี 2566 ด้านรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี คาดว่าจะเสนอโครงการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้ในเร็วๆ นี้และจะเปิดให้บริการได้ในปี 2569
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลศิริราชมีผู้ป่วยนอกเดินทางมาใช้บริการ 8,000-10,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันบริเวณพื้นที่รอบๆ ก็ประสบปัญหาจราจรติดขัด
การก่อสร้างอาคารรักษาพยาบาลที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้ จึงช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลศิริราชได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ลดความเสี่ยงระหว่างการเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพในการนัดหมาย ดูแล และส่งต่อผู้ป่วย ลดความแออัดภายในโรงพยาบาล รวมถึงส่งเสริมนโยบายการผ่าตัดแบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Surgery) ไม่ต้องพักค้างคืน
อาคารแห่งนี้จะเน้นรองรับผู้ป่วยด้อยโอกาสและผู้ป่วยนอก ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 3 ปี โดยหลังจากลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันนี้แล้ว ก็จะดำเนินการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ทันที
ทั้งนี้ ยืนยันว่า คลื่นแม่เหล็กจากโครงการรถไฟฟ้าจะไม่รบกวนอุปกรณ์การแพทย์ในอาคาร ขณะเดียวกันโรงพยาบาลศิริราชจะก่อสร้างสกายวอล์คเชื่อมต่อระหว่างอาคารรักษาพยาบาลและอาคารอื่นๆ รวมถึงถนนอรุณอมรินทร์ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยและประชาชนเพิ่มเติม
รายงานข่าวเปิดเผยว่า อาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราชเป็นอาคารสูง 15 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 48,191 ตารางเมตร ประกอบด้วย งานบริการผู้ป่วยนอก ห้องปฏิบัติการ หอผู้ป่วยวิกฤต ICU 12 ห้อง หอผู้ป่วยใน 126 เตียง โดยพื้นที่ชั้นที่ 1-2 จะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีส้ม