“การรถไฟฯ” ยืนยันชานชาลาใหม่สูง 1.1 เมตรเท่ากันหมด พร้อมเร่งมือดัดแปลงบันไดรถ “สายอีสาน” อำนวยความสะดวกช่วงเปลี่ยนผ่าน คาดทยอยเสร็จ เม.ย. นี้
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการก่อสร้างชานชาลาแบบใหม่ ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายต่างๆ จะมีความสูงไม่เท่ากันนั้น
การรถไฟฯ ขอเรียนยืนยันว่า เมื่อโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางนั้นๆ แล้วเสร็จ ชานชาลาทั้งหมดตลอดเส้นทางดังกล่าวจะเป็นชานชาลาแบบใหม่ที่มีความสูง 1.10 เมตรเท่ากับพื้นตู้โดยสารรถไฟ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและผู้พิการสามารถเข้าออกตู้โดยสารรถไฟได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และยังช่วยลดระยะเวลาในการจอดลงอีกด้วย
นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า แต่ในระยะเปลี่ยนผ่าน ที่การรถไฟฯ มีทั้งชานชาลาแบบเก่าและแบบใหม่เปิดให้บริการ โดยใช้ตู้โดยสารรถไฟในปัจจุบัน จะทำให้เกิดความไม่สะดวกในการขึ้นลงขบวนรถ
การรถไฟฯ จึงได้ทยอยดัดแปลงบันไดในขบวนรถโดยสารดีเซลสายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) เพื่อให้สามารถใช้ร่วมกับชานชาลาทั้ง 2 แบบได้ โดยผู้โดยสารทุกคนจะสามารถเดินขึ้นลงระหว่างตู้โดยสารรถไฟปัจจุบันกับชานชาลาแบบใหม่ได้อย่างปลอดภัย คาดว่าการปรับปรุงดังกล่าวจะแล้วเสร็จตามแผนภายในเดือนเมษายน โดยมีรายละเอียดดังนี้
- รถโบกี้ชั้น 3 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งดัดแปลง 20 คัน โดยได้ทยอยนำออกมาใช้งานตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา และจะทำต่อเนื่องอีก 40 คัน โดยดัดแปลงบันไดบริเวณประตูด้านหน้าของตู้โดยสารด้านซ้าย-ขวา ทั้ง 2 ด้าน ทำเป็นลักษณะบานพับแบบเปิดปิดเสมอกับระดับชานชาลาแบบใหม่
- รถดีเซลรางท้องถิ่น ตั้งเป้าหมายปรับปรุงทั้งหมด 42 คัน ขณะนี้ทำแล้วเสร็จ 16 คัน ส่วนที่เหลือจะเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว
- รถดีเซลรางกรุงเทพฯ มีแผนปรับปรุงทั้งหมด 20 คัน ขณะนี้แล้วเสร็จ 10 คัน และอีก 10 คันจะให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ โดยลักษณะการปรับปรุงจะใช้ 2 ประตูด้านหน้าเป็นบันไดต่ำสำหรับสถานีที่เป็นชานชาลาแบบเก่า ส่วน 2 ประตูด้านหลังจะเป็นบันไดสูงใช้สำหรับสถานีที่ใช้ชานชาลาแบบใหม่ โดยใช้สวิทซ์บังคับปิดเปิดประตูโดยพนักงานขับรถ ทั้งนี้ ประตูที่ใช้สำหรับสถานีที่ใช้ชานชาลาแบบใหม่จะมีสติ๊กเกอร์ติดประชาสัมพันธ์การใช้ไว้ที่ประตูทางขึ้นลงของตู้โดยสารทั้งด้านในและด้านนอกด้วย
“ระหว่างที่มีการปรับปรุงชานบันไดขึ้นลงยังไม่แล้วเสร็จ และในช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้ได้กำชับให้ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถจัดเจ้าหน้าที่ดูแลการขึ้นลงตู้โดยสารรถไฟให้แก่ผู้โดยสารทุกๆ ท่านอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการ และผู้มีสัมภาระจำนวนมาก” นายวรวุฒิกล่าว
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังมีโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นใหม่จำนวน 184 คัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการขออนุมัติโครงการจากรัฐบาลและจะรายงานขออนุมัติจัดหาเพิ่มเติมอีกจำนวน 216 คัน ในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะสามารถนำรถดีเซลรางรุ่นใหม่จำนวน 184 คันมาให้บริการแก่ประชาชนได้ในปี 2565 – 2566 โดยรถโดยสารขบวนใหม่จะมีความสูงของพื้นตู้โดยสารเท่ากับชานชาลาแบบใหม่ และมีประตูกว้างกว่าเดิม ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น