“พปชร.” เดินหน้าผลักดันนโยบายวิสาหกิจเพื่อสังคมเปลี่ยน “ผู้พิการ” จากลูกจ้างเป็นผู้ประกอบการ หนุนปลุกปั้น “ร้านนวดอาสาวดี” ดึงหมอนวดตาบอดชูโรง คาดอีก 6 เดือนเปิดบริการ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ และคณะทำงานนโยบายคนพิการ กล่าวภายหลังประชุมถึงนโยบายเพื่อผู้พิการว่า ในวันนี้มีการหารือ และติดตามความคืบหน้าในประเด็นเปลี่ยนผู้พิการ เป็นผู้ประกอบการ ด้วยการตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม ทำให้ผู้พิการมีงานทำ
โดยพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นผู้ช่วยดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้ง ส่วนคนขับเคลื่อนวิสาหกิจ คือ ผู้พิการทั้งหมด สำหรับโครงสร้างหลักขณะนี้ทาง สมาคมคนตาบอดแก่งประเทศไทย ได้ตั้งบริษัท TAB ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพรรคจะดึงบริษัทนี้ดำเนินการในรูปแบบผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ต่อไป มีคณะกรรมการบริหารบริษัทฯเป็นผู้พิการ และจิตอาสาที่ช่วยเหลือผู้พิการ ส่วนกรรมการเป็นผู้พิการทั้งหมด
สำหรับสินค้า และบริการหลัก จะเริ่มจากหมอนวดผู้พิการทางสายตา แบรนด์ “อาสาวดี” ซึ่งจะมีท่านวดพิเศษ จากนั้นจะขับเคลื่อนไปสู่สินค้าอื่นๆต่อไป เช่น สินค้าเกษตร และหัตถกรรม ส่วนเงินทุนได้คุยกับบริษัทต่างๆ ซึ่งสนใจเข้ามาสนับสนุนในลักษณะ ซีเอสอาร์ เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ แต่เงินทุนในการดำเนินการเบื้องต้นจะใช้จากกองทุนผู้พิการ ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการตั้งเอสเอ็มอี ภายใน 3 เดือนข้างหน้า ต่อจากนั้นอีก 3 เดือน จะหาสถานที่เหมาะสมในการตั้งร้านนวด
” โครงการนี้ เป็นการทำความฝันที่จะเปลี่ยนผู้พิการเป็นผู้ประกอบการได้สำเร็จ และไม่เกินครึ่งปีก็น่าจะได้เห็นการผลเป็นรูปธรรม “ นายกอบศักดิ์ กล่าว
ด้านนายวิทยา ศรีโกตะเพ็รช ตัวแทนสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นทิศทางใหม่ของการพัฒนาคุณภาพผู้พิการ เพราะการจะทำให้ผู้พิการเข้มแข็ง และยั่งยืน ต้องมีธุรกิจ และรายได้ของตัวเอง
“การทำให้คนพิการเป็นผู้ประกอบการ ก็จะทำให้กลุ่มคนพิการมีศักยภาพในการดูแลตัวเอง เป็นฐานรากในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ “ นายวิทยา กล่าว
สำหรับคนตาบอด จุดแข็งน่าจะเป็นการนวด ซึ่งร้านนวดอาสาวดี ที่กำลังจะเกิดขึ้น ถือเป็นร้านพรีเมี่ยม เพราะหมอนวดตาบอดเก่งที่สุดในบรรดาหมอนวดแผนไทย และร้านนี้จะเป็นเครื่องยืนยันว่า คนพิการจะกลายเป็นผู้ประกอบการนำเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศให้เดินหน้าต่อไป
ด้านนายธมนิฏฐ์ ชาญจรัสพงศ์ ตัวแทนผู้พิการ กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้พิการที่ขึ้นทะเบียน กว่า 2 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่จะทำอย่างไรให้คนพิการสามารถดำเนินชีวิตได้ดังเดิม ใช้ชีวิตมีความสุข โดยไม่ได้มีความพิการเป็นอุปสรรค มีศักดิ์ศรี ซึ่งวิสาหกิจสังคม สามารถทำให้คนพิการมีรายได้ดูแลตนเอง ประกอบกิจการ แข่งขันกับส่วนอื่นๆได้ มีอาชีพ ถือเป็นแนวทางที่ดีและต้องช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป
