COVID-19

โควิดจีน: ‘เซี่ยงไฮ้’ เสี่ยงเจอ ‘ล็อกดาวน์’ รอบใหม่ เหตุยอดโควิดพุ่งช่วงหยุดยาววันชาติ

โควิดจีน: จีนเร่งสกัดโรคโควิด-19 ก่อนถึงกำหนดการเปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน 16 ตุลาคมนี้ หลังยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ขณะประชาชนพากันวิตกว่า ทางการจะบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกรอบในนครเซี่ยงไฮ้

เมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) จีนตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รวมทั้งสิ้น 1,939 ราย สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา สาเหตุมาจากผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากช่วงหยุดยาววันชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยแบ่งออกเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ 1,566 ราย และผู้ติดเชื้อในชุมชนแบบแสดงอาการของโรค 373 ราย

โควิดจีน

ในจำนวนผู้ติดเชื้อในชุมชนรายใหม่ทั้งหมด รวมถึงผู้ติดเชื้อ 34 รายในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน โดยตรวจพบผู้ติดเชื้อ 2 รายที่อยู่นอกระบบกักตัว กรณีดังกล่าวทำให้ละแวกใกล้เคียงถูกล็อกดาวน์ ขณะที่อาคารต่าง ๆ ถูกปิดล้อมด้วยรั้วสีเขียว แบบเดียวกันกับในช่วงล็อกดาวน์เมื่อต้นปีนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ประชาชนในเซี่ยงไฮ้ต่างวิตกว่า จะเผชิญมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดกว่าเดิม โดยย่านอาศัยหลายแห่งถูกล็อกดาวน์แล้ว รวมถึงเขตฉางหนิง และสฺวีฮุ่ย ขณะอาคารที่อยู่อาศัยบางแห่งที่ถูกล็อกดาวน์ จะมีบริการจัดส่งอาหารถึงที่จากรัฐบาลท้องถิ่น ทั้งยังมีข่าวลือหนาหูว่า โรงเรียนจะถูกปิดเพื่อสกัดโรคระบาด

ขณะเดียวกัน มองโกเลียในตรวจพบผู้ติดเชื้อคิดเป็นหนึ่งในสามของจีน ทางการจึงออกคำสั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้าเมืองโฮฮอต เมืองเอกของมองโกเลียใน ตั้งแต่วันนี้ (10 ต.ค.) พร้อมสั่งให้ผู้มีถิ่นอาศัยในเมืองดังกล่าว ชะลอการเดินทางกลับเข้าเมือง จนกว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้

แม้กระทั่งในพื้นที่ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ถูกสั่งล็อกดาวน์ โดยเมืองหย่งจี้ที่มีประชากร 400,000 รายในมณฑลชานซี ต้องถูกล็อกดาวน์เป็นเวลา 3 วันนับตั้งแต่ช่วงค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันว่า อาจมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มนักเดินทางที่กลับบ้านหลังวันหยุดยาว ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจุดกระแสวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จีน โดยระบุว่าทางการเข้มงวดจนเกินไป

โควิดจีน

ปัจจุบัน ทางการท้องถิ่นตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ต้องควบคุมโรคโควิด-19 ได้สำเร็จ เนื่องจากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน กำลังจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

การประชุมดังกล่าวถือว่าสำคัญอย่างมากต่อทิศทางประเทศ โดยคาดการณ์กันในวงกว้างว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะได้รับเลือกให้บริหารประเทศต่อเป็นสมัยที่ 3 โดยมีวาระ 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมาประธานาธิบดีสี ย้ำชัดถึงเจตนารมณ์ในการสกัดโรคระบาดตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ แม้จะส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจก็ตาม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo