โควิดวันนี้ 2 กันยายน นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 608,859,911 คน รักษาตัวหายแล้ว 585,122,813 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 6,498,831 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 590,784 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 1,751 ราย
สถานการณ์ โควิดวันนี้ 2 กันยายน 2565
Worldometer เว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 65,815 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมล่าสุดที่ 96,465,126 ราย พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 272 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,072,125 ราย มากสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
ขณะที่หลายประเทศในยุโรป ยังเจอกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรัสเซียรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 49,761 ราย เยอรมนี 33,930 ราย อิตาลี 20,498 ราย และฝรั่งเศส 18,646 ราย
ส่วนสถานการณ์ระบาดในเอเชีย ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อใหม่ล่าสุดที่ 167,340 ราย เกาหลีใต้ 81,499 ราย ไต้หวัน 34,118 ราย ฮ่องกง 10,586 ราย และอินเดีย 3,928 ราย
ในอาเซียน เวียดนามรายงานการพบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 2,680 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 11,414,359 ราย มากสุดในภูมิภาค ไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ ทำให้มียอดสะสมผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 43,117 ราย
อินโดนีเซีย รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดวันนี้ จำนวน 4,094 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 6,362,902 ราย มากสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน พบผู้เสียชีวิตอีก 25 ราย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวม 157,591 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียน
“อนามัยโลก” หวั่นยอดป่วย-ตาย พุ่ง ช่วงอากาศเย็น
นพ.ทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่อนามัยโลก บอกว่า แม้รายงานผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จะลดลงทั่วโลก แต่ด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นขึ้นในซีกโลกเหนือ จำนวนผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล และเสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
ข้อมูลด้านระบาดวิทยารายสัปดาห์ล่าสุดขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่รายสัปดาห์ลดลง 9% เหลือราว 5.3 ล้านราย ในช่วงสัปดาห์วันที่ 15-21 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ขณะจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตรายใหม่รายสัปดาห์อยู่ที่มากกว่า 14,000 ราย ลดลง 15% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
นพ. ทีโดรส กล่าวว่า โควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยใหม่ ๆ ในปัจจุบันสามารถแพร่เชื้อได้สูงกว่าหลายสายพันธุ์ก่อนหน้า และความเสี่ยงการอุบัติของสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้สูง และอันตรายกว่าเดิมยังคงมีอยู่ แต่อัตราความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงมากที่สุดยังคงอยู่ในระดับต่ำเกินไป โดยเฉพาะในประเทศรายได้ต่ำ
“การใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด-19 ไม่ได้หมายถึงแกล้งทำเป็นว่าโรคระบาดใหญ่จบแล้ว แต่หมายถึงการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังพื้นฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ หรือหากติดเชื้อแล้วก็ช่วยให้ไม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิต”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชาติแรกของโลก! ‘สหราชอาณาจักร’ ไฟเขียวใช้ ‘วัคซีนโควิด 2 สายพันธุ์’ สกัด ‘โอไมครอน’ ของโมเดอร์นา
- ‘อังกฤษ’ ยกเลิกมาตรการคุม ‘โควิด-19’ ระบาดทั้งหมด
- เพิ่มเกราะป้องกัน!! วิจัยจีนพบวัคซีนโควิด-19 โดสกระตุ้น ‘ต่างชนิด’