โควิดวันนี้ 18 กรกฎาคม 2565 นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 567,715,187 คน รักษาตัวหายแล้ว 538,855,697 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 6,387,680 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 534,267 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 679 ราย
สถานการณ์ โควิดวันนี้ 18 กรกฎาคม 2565
Worldometer เว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,757 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมล่าสุดที่ 91,275,149 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 21 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,048,843 ราย มากสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
ขณะที่หลายประเทศในยุโรป ยังเจอกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยฝรั่งเศสรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ล่าสุด 73,668 ราย อิตาลี 67,817 ราย และรัสเซีย 4,664 ราย
สำหรับ การระบาดใหญ่ในแถบอเมริกาใต้นั้น บราซิล ซึ่งติดอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศ ที่มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิดมากสุดในโลก พบผู้ติดเชื้อใหม่ 10,852 ราย และชิลี เจอผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 6,920 ราย
สถานการณ์ระบาดในเอเชีย ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อใหม่ล่าสุดที่ 104,832 ราย เกาหลีใต้ 40,342 ราย และอินเดีย 12,808 ราย
นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า เนื่องจากระบบสาธารณสุขปัจจุบันยังสามารถให้บริการได้ รัฐบาลจึงไม่ได้พิจารณาจำกัดการเคลื่อนไหวของประชาชน และจะรักษาสมดุลของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป
ในอาเซียน เวียดนามรายงานการพบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 745 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10,760,595 ราย มากสุดในภูมิภาค ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ ทำให้มียอดสะสมผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 43,091 ราย
อินโดนีเซียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดวันนี้ จำนวน 3,540 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 6,134,953 ราย มากสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 10 ราย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวม 156,849 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โตเกียว’ ยกระดับเตือนภัย ‘โควิด’ ขั้นสูงสุด รัฐบาลญี่ปุ่นวอนประชาชน ระวัง! ระบาดรอบใหม่
- จีนล็อกดาวน์ ‘ซีอาน’ หลังเจอ ‘โอไมครอน BA.5’ ระบาดครั้งแรก
- สหรัฐเผยโควิด-19 ยังคร่าชีวิตผู้คนต่อเนื่อง คาดปีหน้าตายอีกกว่า 9 แสนคน