กรุงปักกิ่ง สั่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับประชาชนในเขตจ้าวหยาง ที่กรุงปักกิ่ง ถึง 3 รอบ เพื่อรับมือกับการระบาดรอบใหม่ ที่เกิดขึ้นในสถานบันเทิงและย่านช้อปปิ้งในพื้นที่เมื่อสัปดาห์ก่อน การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่นาน หลังจากเมืองหลวงของจีนแห่งนี้ เพิ่งผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
หน่วยงานสาธารณสุขจีน แถลงว่า การสั่งตรวจเชื้อครั้งใหญ่ในเขตจ้าวหยาง ที่มีประชากรกว่า 3 ล้านคน จะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ (13 มิ.ย.) จนถึงวันพุธ (15 มิ.ย.) หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเขตจ้าวหยาง ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ จำนวน 166 คน เกี่ยวข้องกับ เฮฟเวน ซูเปอร์มาร์เก็ต บาร์ ในย่านซานลี่ถุน ซึ่งเป็นแหล่งรวมสถานบันเทิงยามค่ำคืนในกรุงปักกิ่ง โดยผู้ติดเชื้อ 145 คนเป็นพนักงานในบาร์
เหตุการณ์ดังกล่าว ยังทำให้ทางการสั่งล็อกดาวน์อาคารที่พักอาศัย 2 แห่ง ในเขตจ้าวหยาง เป็นเวลาอย่างน้อย 2 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่ 1 คนในพื้นที่นี้ โดยมีการนำแผงกั้นเหล็กขนาดใหญ่มาติดตั้งรอบอาคาร มีเจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันเชื้อโรคเข้ามาฆ่าเชื้อทำความสะอาดบริเวณทางเข้าอาคาร อีกทั้งยังมีตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำการตรวจทางออกทุกจุดของอาคารด้วย
กรุงปักกิ่ง เพิ่งจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ โดยกลับมาเปิดห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ ยิม และร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ
การเคลื่อนไหวข้างต้นยังเกิดขึ้น หลังเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเคยล็อกดาวน์มาร่วมสองเดือน จนกระทั่งกลับมาเปิดเมืองเมื่อเดือนมิถุนายน สั่งตรวจเชื้อประชาชนเกือบ 25 ล้านคนอีกครั้ง หลังพบผู้ติดเชื้อแบบแสดงอาการหนึ่งคน และแบบไม่แสดงอาการอีก 4 คน
ทั้งนี้ จีนยังคงใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างเคร่งครัด ทั้งการสั่งปิดเมือง และตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่ เพื่อสกัดกั้นการระบาด โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของจีนยังอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลก ที่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ไปมากแล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘Airbnb’ ปิดฉากให้บริการในจีน ยอมแพ้ Zero Covid หลังล็อกดาวน์เกือบ 2 ปี
- โควิดจีน: ‘ปักกิ่ง’ สั่งปิดสถานีรถไฟใต้ดินกว่า 40 แห่ง หวังสกัดโควิดระบาด
- ‘มูดี้ส์’ ชี้นโยบายจีน ‘โควิดเป็นศูนย์’ ทำ ‘วิกฤติซัพพลายเชน’ ยืดเยื้อ
