นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของจีน ประกาศขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ออกไปโดยไม่มีกำหนด หลังเร่งตรวจหาเชื้อโควิดในชาวเมืองมากกว่า 25 ล้านคน จนทำให้พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งกว่า 13,000 คน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นครเซี่ยงไฮ้มีกำหนดยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเมืองในวันนี้ (5 เม.ย.) แต่ได้ประกาศขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ออกไปโดยไม่มีกำหนด ทั้งยังจะเพิ่มการใช้มาตรการจำกัดบริการขนส่งสาธารณะของนครเซี่ยงไฮ้มากขึ้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้เส้นทางเดินรถไฟใต้ดินถูกระงับบริการมากกว่าเดิม
การเคลื่อนไหวข้างต้น เกิดขึ้นหลังเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ทางการเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า ได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง สำหรับทดสอบกรดนิวคลีอิกจากผู้อยู่อาศัยเกือบ 25 ล้านคนเสร็จสิ้นในขั้นพื้นฐานแล้ว
ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้ทดสอบกรดนิวคลีอิกทั่วเมืองเมื่อวานนี้ ตามหลังการทดสอบแอนติเจนขนานใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ (3 เม.ย.) โดยมหานครแห่งนี้ได้บังคับใช้การจัดการแบบปิดชั่วคราวหลังจากตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มสูงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ นครเซี่ยงไฮ้ พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่ไม่แสดงอาการ 13,086 คน ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่และเพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มี 8,581 คน ส่วนตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ ที่แสดงอาการลดลงเหลือ 268 คน จากวันก่อนที่มี 425 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก
ทางการเผยด้วยว่า นครเซี่ยงไฮ้จะดำเนินงานเพิ่มเติมอย่างเป็นระบบต่อไป อาทิ การทดสอบ การตรวจสอบหลายครั้ง การย้ายผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมถึงการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์การระบาด และจะออกมาตรการควบคุมการติดตามผลตามข้อบังคับระดับประเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเผยแพร่ผลการตรวจคัดกรองขนานใหญ่หลังจากงานทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เซี่ยงไฮ้’ เร่งระดมตรวจโควิดกว่า 8 ล้านคน ตามแผนคุมระบาดรอบใหม่
- ชาวจีนฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโดสแล้วเกือบ 1.24 พันล้านคน!!
- โควิดจีน ยังหนัก! สั่งล็อกดาวน์ประชาชน 30 ล้านคน สกัดยอดติดเชื้อพุ่ง
