COVID-19

WHO ระบุ ‘โอไมครอนล่องหน’ สายพันธุ์ BA.2 ระบาดมากที่สุดในโลกแล้ว

WHO ระบุ ‘โอไมครอนล่องหน’ สายพันธุ์ BA.2 ระบาดมากที่สุดในโลกแล้ว 86% แถมแพร่ง่าย แนะฉีดเข็มกระตุ้น

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์ โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 หรือ “โอไมคsอนล่องหน” กลายเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดมากที่สุดในโลกไปแล้วในขณะนี้ โดยพบ 86% ของการติดเชื้อโควิดทั่วโลก และเป็นเหตุให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้นทั้งในเอเชียและยุโรป

โอไมครอนล่องหน

ล่าสุด โอไมครอนยังทำให้จีนต้องหวนกลับไปเผชิญกับการระบาดของโควิดรุนแรงสุดในรอบ 2 ปี ทำให้ต้องใช้มาตรการโควิดเข้มงวดที่สุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่การระบาดครั้งแรกสุดที่เมืองอู่ฮั่น คือการล็อกดาวน์ปิดเมืองหลายเมืองเป็นครั้งแรก

โอไมครอนล่องหน

ฉายา ‘โอไมครอนล่องหน’ เพราะหลบภูมิเก่ง

ความร้ายกาจของ BA.2 คือ ติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์โอไมครอน BA.1 และ BA.1.1 และยังมีความสามารถเช่นเดียวกับเชื้อโอไมครอนดั้งเดิม คือ สามารถหลบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนต้านโควิดได้

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากสำนักงานความมั่นคงด้านสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ยืนยันว่า ภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีนต้านโควิด สามารถฟื้นคืนกลับมาได้ ด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ที่สามารถป้องกันทั้งการเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากโควิดได้

แม้จะติดต่อกันง่าย แต่ไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรงไปกว่าเดิม และครองพื้นที่สหรัฐไปแล้วกว่าครึ่งของผู้ติดเชื้อ

นอกจากนี้ WHO ระบุว่า แม้จะติดต่อได้ง่ายกว่า แต่ BA.2 ไม่ได้ทำให้เกิดอาการรุนแรงมากไปกว่าเชื้อโอไมครอนตัวแรก

โอไมครอนล่องหน

BA.2 ครองพื้นที่กว่าครึ่ง ของผู้ติดเชื้อ ในสหรัฐ

ส่วนสถานการณ์โควิดที่สหรัฐฯ ล่าสุด มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในสหรัฐฯ รายงานว่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ทะลุ 80 ล้านคนเมื่อวานนี้ (29 มีนาคม) ไปอยู่ที่ 80,003,415 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดล่าสุด อยู่ที่ 978,177 คน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ระบุในรายงานประเมินสถานการณ์ระบาดของโควิดในสหรัฐฯ ล่าสุดว่า  ขณะนี้โควิดกลายพันธุ์ “โอไมครอน” สายพันธุ์ย่อย “BA.2” ได้กลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปทั่วสหรัฐฯ แล้ว

โดยเชื้อ BA.2 ที่มีฉายา “โอไมคsอนล่องหน” นี้ พบในผู้ติดเชื้อโควิดเกินกว่าครึ่งหนึ่ง คือ เกือบ 55% ของยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดทั้งหมดในสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo