COVID-19

วิจัยชี้ ‘ทารก’ มีโอกาสเข้าโรงพยาบาลจาก ‘โควิด’ น้อยลง หากแม่ฉีดวัคซีนตอนตั้งครรภ์

ซีดีซี เปิดผลศึกษาล่าสุด ชี้ แม่ฉีดวัคซีนโควิด ระหว่างตั้งครรภ์ สามารถส่งต่อภูมิคุ้มก้นให้กับเด็กเกิดใหม่ได้ และทำให้ทารกมีโอกาสที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะการติดเชื้อไวรัสน้อยลง 

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี) เปิดผลการศึกษาชิ้นใหม่ ที่ระบุว่า ทารกที่มีอายุน้อยกว่า 6 เดือน มีแนวโน้มลดลงถึง 61% ที่จะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพราะการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หากมารดาได้รับวัคซีนต้านโควิด ระหว่างการตั้งครรภ์

แม่ฉีดวัคซีนโควิด

ซีดีซี ระบุว่า นักวิจัยได้ดำเนินการศึกษาทารกเกิดใหม่ ในโรงพยาบาล 20 แห่ง จาก 17 รัฐ ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา

แม่ฉีดวัคซีนโควิดส่งภูมิคุ้มกันถึงลูกในท้อง

การศึกษานี้ แสดงให้เห็นว่า 84% ของทารกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพราะการติดเชื้อไวรัสโควิด รวมถึง ทารก 43 รายที่ต้องเข้ารักษาในไอซียูนั้น คลอดจากมารดาที่ไม่ได้รับวัคซีน โดย 88% ในจำนวนนี้ ยังมีแม่ที่ไม่ได้รับวัคซีนก่อนการคลอดด้วย

ซีดีซีเตือนให้หญิงตั้งครรภ์ แม่ที่ให้นมบุตร หรือหญิงที่มีแผนจะตั้งครรภ์ ให้ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ซึ่งโรคดังกล่าว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด หรือเสียชีวิตขณะคลอดได้

แม้รายงานวิจัยก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับวัคซีนโควิด จะแสดงให้เห็นว่า บรรดาหญิงตั้งครรภ์สามารถส่งต่อภูมิคุ้มกัน ไปยังทารกที่อยู่ในท้องถิ่น แต่ผลวิจัยล่าสุดนี้ เป็นฉบับแรก ที่แสดงให้เห็นถึงการป้องกันที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง

ดร.ดานา มีนีย์ เดลแมน จากซีดีซี ระบุว่า มีการตรวจพบภูมิคุ้มกันโควิด ในเลือดจากสายสะดือ ซึ่งบ่งชี้ว่าภูมิคุ้มกัน ได้ถ่ายโอนจากหญิงตั้งครรภ์ไปยังตัวอ่อนที่กำลังเติบโตในครรภ์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo