ฮ่องกง สั่งกำจัด ‘แฮมสเตอร์’ นำเข้าหลายพันตัว หลังพบอาจเป็นต้นตอแพร่โควิดสู่คน พร้อมสั่งปิดร้านขายสัตว์เลี้ยง และสั่งให้ลูกค้านับร้อยคนกักตัว
ทางการฮ่องกงกำลังสงสัยว่า “แฮมสเตอร์” ที่นำเขามาจากต่างประเทศอาจเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบล่าสุด หลังจากไม่พบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในชุมชนมาเป็นเวลาหลายเดือนด้วยมาตรการโควิด -ซีโร่
เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ทางการฮ่องกงสั่งให้กำจัดแฮมสเตอร์จำนวนหลายพันตัว สั่งปิดร้านค้าที่ขายแฮมสเตอร์ และสั่งให้ลูกค้าร้านขายสัตว์เลี้ยงเหล่านี้นับร้อยคนเข้ากักตัวที่สถานกักกันโรคของรัฐแล้ว หลังจากพบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกับร้านขายสัตว์เลี้ยงที่มีชื่อว่า “ลิตเติ้ลบอส”
รายงานระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังการตรวจพบว่าแฮมสเตอร์กว่า 10 ตัวซึ่งนำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งไม่พบการระบาดในพื้นที่มานานหลายเดือน ก่อนที่จะพบว่า พนักงานร้านลิตเติ้ลบอส ติดโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ยังตรวจพบไวรัสที่โกดังสินค้าของร้านลิตเติ้ลบอสด้วย
ทั้งนี้ ทางการฮ่องกงสั่งปิดร้านขายแฮมสเตอร์ทั้งหมด 34 ร้าน มีคำสั่งให้ตรวจและทำความสะอาดร้าน ขณะที่ลูกค้าที่เข้าไปซื้อแฮมสเตอร์ ต้องส่งมอบ แฮมสเตอร์ให้ทางการไปกำจัด และต้องเข้ากักตัวในสถานที่ควบคุมโรคที่รัฐจัดให้ทันที
นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ขนาดเล็กอื่นๆเช่น ชินชิลาส์ กระต่าย รวมถึงแฮมสเตอร์ ราว 2,000 ตัวถูกกำจัดและมีคำสั่งห้ามนำเข้าสัตว์เล็กเหล่านี้ลงในทันที
ฮ่องกง รวมไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ใช้มาตรการโควิด-ซีโร่ ในการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ในช่วงหลังจะมีการตรวจพบต้นตอโควิด-19 มาจาก อาหารแช่แข็ง สัตว์ รวมไปถึงหีบห่อพัสดุที่ส่งมาจากต่างประเทศ ในขณะที่ทางการจีนมีการควบคุมคนเข้าออกประเทศอย่างเข้มงวด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อิตาลีเปิดตัวชุดตรวจโควิดครอบคลุมสายพันธุ์ ‘โอไมครอน’
- ใช้ ‘ตำรับยาสมุนไพรไทย’ ดูแลผู้ป่วย ‘ลองโควิด’ นำร่องลำปางเป็นที่แรก
- จ่อเสนอ ‘ศบค.’ เปิดลงทะเบียน Test & Go ก.พ.นี้ ลั่นสถานบันเทิงยังเสี่ยง!