โควิดวันนี้ 9 มกราคม 2565 นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 305,992,785 คน รักษาตัวหายแล้ว 258,949,730 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 5,502,256 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 2,205,864 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 4,821 ราย
สถานการณ์ โควิดวันนี้ 9 มกราคม 2565
Worldometer เว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 468,081 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมล่าสุดที่ 60,954,028 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 669 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 859,046 ราย มากสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
ขณะที่ในยุโรป หลายประเทศต้องรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นอย่างมาก โดยฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวัน พุ่งขึ้น 303,669 ราย สหราชอาณาจักร ที่ 146,390 ราย และอิตาลี ที่ 197,552 ราย
สถานการณ์ระบาดในเอเชีย ยังขึ้นมาอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน โดยอินเดีย พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มขึ้น 147,814 ราย หลังจากที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน ส่วนตุรกี ก็มีผู้ติดเชื้อใหม่มากถึง 66,237 ราย และเวียดนามเพิ่มขึ้น 16,553 ราย ทั้งยังมีออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อวันเดียวทำนิวไฮอีกครั้งที่ 115,507ราย
ส่วนในอาเซียนนั้น กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดวันนี้ มีจำนวน 479 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,265,666 ราย สูงสุดในกลุ่มอาเซียน
อินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 6 ราย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 144,127 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
ทางด้าน กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 26,458 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 2,936,875 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตสะสม จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ อยู่ที่ 52,135 ราย เพิ่มขึ้น 265 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สหรัฐ’ ไฟเขียว ‘ยาเม็ดรักษาโควิด’ ไฟเซอร์ รักษาที่บ้าน-ใช้กับเด็ก 12 ปีขึ้นไป
- ‘อนามัยโลก’ เตือน พายุไวรัส ‘โอไมครอน’ กำลังบุกยุโรป แนะฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์
- ศบค.เคลียร์ชัด! มาตรการเข้าประเทศล่าสุด ย้ำ! ต้องกักตัวและตรวจ RT-PCR
