“องค์การอนามัยโลก” เตือน การกระจายวัคซีนอย่างไม่เท่าเทียมกันทั่วโลก ทำให้เกิดไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ ๆ อย่าง โอไมครอน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
นพ.ทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องวัคซีนนั้น ถือเป็นฆาตกรที่สังหารผู้คน และตำแหน่งงาน ทั้งยังบั่นทอนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
เขาบอกด้วยว่า การที่บรรดาผู้นำทั่วโลก ไม่มีความสามารถที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อทำให้วัคซีนเข้าถึงชาติยากจน ที่มีระบบสาธารณสุขล้าหลังนั้น ถือเป็นหนึ่งในความล้มเหลวครั้งใหญ่สุดของปี 2564
การที่หลายประเทศเข้าถึงวัคซีนได้น้อย ถือเป็นปัจจัยสำคัญทีทำให้เกิดไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ อย่าง เดลตา และโอไมครอน ขึ้นมา โดยWHO ตั้งเป้าให้มีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากร 40% ของแต่ละประเทศทั่วโลกภายในสิ้นปี 2564 แต่มีอยู่ 92 ประเทศ ที่ไม่สามารถบรรลุเป้าดังกล่าว แม้มีการกระจายวัคซีนมากถึง 9,000 ล้านโดสไปทั่วโลก
นอกจากนี้ WHO ยังได้ตั้งเป้าให้มีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากร 70% ของแต่ละประเทศทั่วโลกภายในกลางปีนี้
นพ.ทีโดรส ย้ำว่า บรรดาผู้นำโลกที่พากันตั้งเป้าการฉีดวัคซีนโควิด เพื่อปกป้องประชากรของตัวเองนั้น ควรที่จะขยายเป้าหมายดังกล่าวออกไป เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ทั่วทั้งโลกจะปลอดภัย และได้รับการคุ้มครอง
“การระบาดใหญ่จะยังไม่สิ้นสุดลง จนกว่าเราจะทำได้เช่นนี้” นพ.ทีโดรส ระบุ
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันด้วยว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงมา ผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งการพบไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่นี้ ทำให้ไอเอ็มเอฟตัดสินใจเลื่อนการออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม เพื่อประเมินถึงผลกระทบที่ไวรัสตัวนี้ มีต่อเศรษฐกิจโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนามัยโลก’ กังวล ผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งสูงเป็น ‘สึนามิ’
- ‘อนามัยโลก’ เตือน พายุไวรัส ‘โอไมครอน’ กำลังบุกยุโรป แนะฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์
- ‘อนามัยโลก’ ประเมิน โควิด อาจคร่าชีวิต ‘บุคลากรสาธารณสุข’ ไปแล้วถึง 1.8 แสนราย