ประธานาธิบดีสหรัฐ เผยการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็มจะช่วยป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอนได้ ย้ำผู้ฉีดครบโดสมาแล้ว 6 เดือน ให้รีบไปรับวัคซีนกระตุ้นภูมิ
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐกำลังก้าวหน้าไปอีกชั้นหนึ่ง ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะคนอเมริกันกว่า 200 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส และเด็ก ๆ ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง มากกว่าชาติใดในโลก
อีกทั้ง องค์การอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ก้ได้อนุมัติให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิให้แก่เด็กวัยรุ่นอายุ 16-17 ปีได้ ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง
นอกจากนั้น ยังพบว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบโอเอนเทค 3 เข็มจะช่วยป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอนได้อีกด้วย ซึ่งผู้นำสหรัฐย้ำว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสมาแล้ว 6 เดือน ให้รีบไปฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ จะปลอดภัยจากเชื้อโอไมครอนอย่างแน่นอน
ท่าทีดังกล่าวของนายไบเดนมีขึ้น หลังก่อนหน้านี้เพียงวันเดียว ไฟเซอร์ อิงค์ และไบโอเอนเทค แถลงร่วมกันว่า หากวัคซีนที่ทั้ง 2 บริษัทพัฒนาร่วมกัน จำนวน 3 โดส จะมีประสิทธิภาพสูง ในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน
แถลงการณ์ของ 2 บริษัท ระบุว่า แม้การฉีดวัคซีน 2 เข็ม จะช่วยป้องกันอาการรุนแรงของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอนได้ แต่ข้อมูลในเบื้องต้นบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานมากขึ้น
ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ตามด้วยเข็มกระตุ้น ยังคงเป็นแนวทางดีที่สุดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ผลการทดลองในเบื้องต้นบ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของแอนติบอดีได้ถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ลดความสามารถในการต่อสู้ของไวรัสโควิด สายพันธุ์โอไมครอนลงเหลือเท่ากับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานด้วยการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม
ไฟเซอร์และไบโอเอนเทค บอกด้วยว่า บริษัทสามารถพัฒนา และจำหน่ายวัคซีนสูตรพิเศษ ที่สามารถต้านสายพันธุ์โอไมครอนได้ภายในเดือนมีนาคม 2565
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โอไมครอนทำอะไรไม่ได้! ‘บิล เกตส์’ เชื่อ ‘โควิด’ เลิกระบาดแรงปีหน้า
- ‘ไบโอเอนเทค’ ชี้ ต้องปรับสูตร ‘วัคซีนโควิด-19’ เพื่อต้าน ‘โอไมครอน’
- เร่งไขปริศนา ‘วัคซีนโควิด-19’ ตัวแปรสกัด ‘โอไมครอน’ ได้หรือไม่