“ทำเนียบขาว” ชี้ ต้องใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์ กว่าจะรู้ผลการตรวจสอบ “โอไมครอน” อย่างชัดเจน ย้ำประชาชนต้องฉีดวัคซีน
นพ.แอนโธนี เฟาชี่ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านการแพทย์ ทำเนียบขาว ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ต้องใช้เวลาอีกราว 2 สัปดาห์ ถึงจะทราบอย่างชัดเจนว่า เชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ระบาดได้ง่ายเพียงใด และมีความร้ายแรงเพียงใดกันแน่ ซึ่งก่อนที่จะมีข้อมูลดังกล่าว ผู้คนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด รวมถึง วัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อเตรียมรับมือ กับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
นพ.เฟาชี่ เปิดเผยว่า นักวิจัยของแอฟริกาใต้กำลังเดินหน้าวิจัยข้อมูลดังกล่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังต้องใช้เวลาอีก 1-2 สัปดาห์ ถึงจะได้ข้อมูลทางคลินิก และเพาะเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ ที่ถูกพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ และยังคงต้องมีศึกษากรณีระยะยาวอื่น ๆ อีกต่อไป
คณะทำงานด้านการแพทย์ของทำเนียบขาว ยังย้ำถึงถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ว่า เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล
นพ.เฟาชี่ ยังนำเสนอข้อมูลใหม่ ที่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนโควิดของโมเดอร์นา และไฟเซอร์/ไบโอเอนเทค เพิ่มแอนติบอดีได้อย่างมาก และย้ำถึงความจำเป็นที่ประชาชนต้องรับการฉีดวัคซีนด้วย
ทางด้าน พญ.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เปิดเผยว่า ซีดีซีร่วมมือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วสหรัฐ ในเรื่องกการถอดรหัสจีโนม เพื่อกักตัว และบ่งชี้ผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างรวดเร็ว โดยเธอกล่าวย้ำว่า ขณะนี้ ซีดีซีดำเนินการดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมามาก
พญ.วาเลนสกีย้ำด้วยว่า แม้ความสนใจจะอยู่ที่ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน แต่ไวรัสสายพันธุ์เดลตาคือ เชื้อที่กำลังระบาดหนักในสหรัฐ และทำให้มีผู้ติดเชื้อถึง 99.9% จากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดทั้งหมด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐ เตือนภัย ‘โอไมครอน’ เสี่ยงระบาดระลอก 5
- ‘สหรัฐ’ เจอโอไมครอนในอีก 6 รัฐ แต่ ‘ซีดีซี’ ยัน ‘เดลตา’ ยังเป็นภัยคุกคามมากกว่า
- ‘อนามัยโลก’ วอนอย่าวิตก ‘โอไมครอน’ เกินเหตุ ชี้ออกมาตรการเหวี่ยงแห ไม่เป็นธรรมต่อชาติแอฟริกา