COVID-19

‘เมอร์ค’ จ่อโกยรายได้มหาศาล เตรียมเพิ่มผลิต ‘โมลนูพิราเวียร์’ 2 เท่า

“เมอร์ค” จ่อโกยรายได้มหาศาล หลังบริษัทเตรียมผลิตยาต้านไวรัสโควิด “โมลนูพิราเวียร์” เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในปีหน้า ท่ามกลางความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น จากการทดลองที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ที่ช่วยลดอัตราผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากการติดเชื้อ ลงมาได้ถึงครึ่งหนึ่ง

หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ รายงานว่า เมอร์ค แอนด์ โค ยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์ของสหรัฐ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ขึ้นเป็น 2 เท่าในปีหน้า เป็น 20 ล้านคอร์ส จากที่ผลิตจำนวน 10 ล้านคอร์สในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการยาดังกล่าวที่พุ่งขึ้น จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

โมลนูพิราเวียร์

โมลนูพิราเวียร์ จ่อช่วยเมอร์คโกยรายได้มหาศาล

คาดว่ายอดขายยาต้านไวรัสโควิดตัวนี้ จะสร้างรายได้มหาศาลให้แก่เมอร์ค ซึ่งแม้ว่าขณะนี้ จะยังไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) หรือ อย.สหรัฐ แต่หลายประเทศทั่วโลก ก็ได้สั่งซื้อ หรืออยู่ระหว่างการเจรจาสั่งซื้อยาจากเมอร์คแล้ว

เมอร์คระบุว่า ยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 นี้  มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตา และสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตได้ถึง 50%

หากได้รับการอนุมัติจากอย.สหรัฐ ยาโมลนูพิราเวียร์ จะเป็นยาเม็ดรับประทานชนิดแรกในตลาด ที่ได้รับการอนุมัติสำหรับการรักษาโรคโควิด-19 อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้สั่งซื้อยาตัวนี้แล้ว 1.7 ล้านคอร์ส หรือ 68 ล้านเม็ด วงเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์ เฉลี่ยราคาคอร์สละ 700 ดอลลาร์ หรือราว 24,000 บาท โดยมีราคาราวเม็ดละ 600 บาท

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า เมอร์คได้ตั้งราคายาที่เรียกเก็บจากรัฐบาลสหรัฐ สูงกว่าต้นทุนการผลิตถึง 40 เท่า

รายงานวิเคราะห์ราคายาต้านไวรัสโควิดตัวนี้ ที่จัดทำโดย Harvard School of Public Health และ King’s College Hospital พบว่า เมอร์คมีต้นทุนผลิตเพียง 17.74 ดอลลาร์ต่อ 1 คอร์ส หรือราว 600 บาท แต่ได้คิดราคาจากรัฐบาลสหรัฐถึงคอร์สละ 700 ดอลลาร์ หรือราว 24,000 บาท ซึ่งสูงกว่าต้นทุนถึง 40 เท่า

โมลนูพิราเวียร์

นอกจากสหรัฐแล้ว ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมอร์คยังบรรลุข้อตกลงขายยาให้สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้แล้ว ทั้งยังอยู่ระหว่างการเจรจากับอีกหลายประเทศ

บริษัทยังทำข้อตกลงให้ไลเซนส์ผลิตยาสามัญกับผู้ผลิตอีก 8 ราย เพื่อการผลิตยาต้านไวรัสโควิดตัวนี้ ที่มีราคาย่อมเยาลงมา ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่า ความต้องการยา อาจแซงหน้าความสามารถในการจัดหา และทำให้ประเทศยากจนเข้าถึงยาตัวนี้ไมได้

ทั้งนี้ ยา 1 คอร์ส ประกอบด้วย ยาขนาด 200 มิลลิกรัม จำนวน 40 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 4 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน

เมอร์คได้เริ่มผลิตยาต้านไวรัสโควิดตัวนี้แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถผลิตได้ 10 ล้านคอร์สภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายยาดังกล่าวสูงถึง 7,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 240,000 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo