คณะกรรมการที่ปรึกษาของเบลเยียม ซึ่งประกอบด้วยรัฐบาลกลางและรัฐบาลของหน่วยงานภายใต้สหพันธ์ ลงมติยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในหลายสถานที่ ซึ่งรวมถึงร้านอาหารและร้านค้า โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาค เป็นต้นไป
มติดังกล่าวมีขึ้นโดยพิจารณาจากยอดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เผยแพร่โดยสถาบันสาธารณสุขซีเอนซาโน (Sciensano) ซึ่งระบุว่าประชาชนมากกว่า 8.2 ล้านคน หรือ 71.94% ของประชากรทั้งหมด ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
อย่างไรก็ดี มาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยจะยังมีผลบังคับใช้ในศูนย์ดูแลสุขภาพ ท่าอากาศยาน และกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 500 คน
อเล็กซานเดอร์ เดอ โกร นายกรัฐมนตรีเบลเยียม กล่าวว่ายอดการฉีดวัคซีนแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค โดยภูมิภาคที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่าร้อยละ 50 อย่างเช่นกรุงบรัสเซลส์ ทางการอาจเลือกชะลอการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ
“เรากำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือต้องจัดให้มีการระบายอากาศที่เพียงพอ รวมถึงการฉีดวัคซีนด้วย” เดอโกรกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันเบลเยียมมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 1,217,473 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 25,494 ราย นับตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดใหญ่
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- ‘สิงโต-เสือ’ สวนสัตว์แห่งชาติสหรัฐ ส่อแววติด ‘ไวรัสโคโรนา’
- อย.สหรัฐ ไฟเขียวไฟเซอร์ ฉีดบูสเตอร์โดส ผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยงมีโรคร้ายแรง
- อัพเดทสถานการณ์โควิด วันที่ 19 กันยายน 2564