COVID-19

‘ยุโรป’ ยัน ‘วัคซีนเข็ม 3’ จำเป็นต่อ ‘ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง-ผู้สูงอายุ’

“ยูโรป” ยืนยัน  “ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง-ผู้สูงอายุ” จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิกัน ย้ำ การฉีดวัคซีนให้บุคคลทั่วไปควรเสร็จโดยเร็ว 

องค์การยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดสกระตุ้น หรือ เข็มที่ 3 ให้กับผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้สูงอายุ เป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้น และการฉีดวัคซีนให้สาธารณชนทั่วไปควรเสร็จสิ้นโดยเร็ว

นายมาร์โค คาวาเลอรี หัวหน้าฝ่ายภัยคุกคามทางสุขภาพ และกลยุทธ์วัคซีนของอีเอ็มเอ ระบุว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปเมื่อใด เนื่องจากหลักฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันบ่งชี้ว่า วัคซีนทุกตัวสามารถป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล การเสียชีวิต และอาการป่วยรุนแรงในระดับสูง

CnyztpE007004 20210722 PEPFN0A001 1 scaled 1

“เราควรเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบโดสมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหลักฐานเกี่ยวกับความจำเป็นในการพิจารณาฉีดวัคซีนโดสกระตุ้น ให้ผู้ที่อาจตอบสนองต่อวัคซีนได้ไม่ดีนัก อาทิ ผู้มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแออย่างรุนแรง หรือผู้ป่วยสูงอายุบางราย ก็ชัดเจนมากขึ้น”

อีเอ็มเอ บอกด้วยว่า ประชาชนในสหภาพยุโรป (อียู) และเขตเศรษฐกิจยุโรป (อีอีเอ) ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่า 528 ล้านโดสแล้ว เมื่อนับถึงต้นเดือนกันยายน

นายคาวาเลอรี ระบุว่า อีเอ็มเอ  กำลังประเมินคำขอจากไฟเซอร์ และไบโอเอนเทค ซึ่งระบุให้ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เข้ารับวัคซีนโดสกระตุ้น หลังรับวัคซีนโดส 2 ไปแล้วอย่างน้อย 6 เดือน โดยคาดว่า จะประกาศข้อสรุปจากการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

หัวหน้าฝ่ายภัยคุกคามทางสุขภาพ และกลยุทธ์วัคซีนของอีเอ็มเอ เปิดเผยด้วยว่า นอกจากเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตาแล้ว อีเอ็มเอ กำลังวิเคราะห์สายพันธุ์อื่น ๆ อย่าง แลมบ์ดา และ มิว ซึ่งมีความน่ากังวลมากขึ้น เนื่องจากสามารถหลบหลีกระบบภูมิคุ้มกันได้

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลที่จะพิสูจน์ว่า สายพันธุ์มิวจะกลายมาเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดหลัก แทนเดลตาหรือไม่

ที่มา : สำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo