โควิดวันนี้ 17 สิงหาคม 2564 นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 208,685,644 คน รักษาตัวหายแล้ว 187,073,423 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,383,497 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 522,310 ราย และมีผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 7,638 ราย
สถานการณ์ โควิดวันนี้ 17 สิงหาคม 2564
Worldometer เว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 37,736,986 ราย โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 103,697 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 638,798 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 308 ราย ยังคงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตสะสม
ขณะที่ อินเดีย ประเทศที่มียอดสะสมการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิดล่าสุดที่ 32,249,900ราย ส่วนบราซิล ในอันดับ 3 อยู่ที่ 20,378,986 ราย รัสเซีย อันดับ 4 มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด ที่ 6,621,601 ราย และฝรั่งเศส ในอันดับ 5 ที่ 6,476,864 ราย
ส่วนในอาเซียนนั้น กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 17,384 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,871,738 ราย สูงสุดในกลุ่มอาเซียน
ขณะผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 1,245 ราย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 118,833 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 14,610 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,755,846 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 27 ราย มาอยู่ที่ 30,366 ราย
ทางด้านสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ไฟเซอร์ และไบโอเอนเทค ได้ยื่นข้อมูลการทดลองทางคลินิกขั้นต้น ต่อคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ตามแผนการขออนุมัติใช้งานวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ทั้งหมด ไม่จำกัดแค่เพียงผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเท่านั้น
ทั้ง 2 บริษัทแถลงว่า ในการทดลองเฟสแรกนั้น วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันสามารถ สร้างแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (neutralizing antibody) เพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแอนติบอดีชนิดนี้ สามารถต้านทานได้ทั้งไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม รวมทั้งสายพันธุ์เบตาและเดลตา
อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองครั้งนี้ ได้รับวัคซีนโดสที่ 3 เป็นเวลา 8-9 เดือนหลังจากได้รับวัคซีนโดสที่ 2
“ข้อมูลที่เราได้รับจนถึงขณะนี้แสดงให้เห็นว่า วัคซีนโดสที่ 3 ของเราสามารถสร้างแอนติบอดีในระดับที่สูงกว่าการฉีดวัคซีน 2 โดสแรก เรารู้สึกยินดีที่จะยื่นข้อมูลเหล่านี้ต่อ FDA ของสหรัฐ โดยที่เราจะยังคงทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายในช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด” นายอัลเบอร์ บูร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ ระบุ
ทั้งนี้ ไฟเซอร์ และไบโอเอนเทค ระบุว่า การประเมินผลการทดลองวัคซีนโดสที่ 3 ในขั้นตอนสุดท้ายนั้น คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเร็ว ๆ นี้ และทางบริษัทจะยื่นต่อ FDA ของสหรัฐ และหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกเป็นลำดับต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ฟิลิปปินส์ ผวา! เจอคนติด ‘โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา’ รายแรกของประเทศ
- จีนเน้นย้ำ ‘สองสิ่งสำคัญ’ ยับยั้งโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
- สุดยอด! ‘อู่ฮั่น’ ใช้เวลา 5 วัน ตรวจโควิด-19 ประชากรทั้งเมือง
