COVID-19

ผู้เชี่ยวชาญเตือนสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐ ‘กำลังแย่ลง’

เมื่อไม่นานนี้ แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ เตือนว่า “สถานการณ์โรคระบาดในประเทศกำลังย่ำแย่ลง” ขณะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา แพร่ระบาดทั่วประเทศ

หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีตเจอร์นัลอ้างคำกล่าวของเฟาซี ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐ (NIAID) เมื่อวันอาทิตย์ (1 ส.ค.) ว่า “ผมไม่คิดว่าเราจะต้องล็อกดาวน์ แต่เราจะเผชิญความเจ็บปวดและความทุกข์ในอนาคต เพราะจำนวนผู้ป่วยกำลังเพิ่มขึ้น”

แอนโทนี เฟาซี

“วิธีแก้ปัญหาคือการรับวัคซีน” เฟาซีกล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ  ระบุว่าสหรัฐ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 64.1% ตลอดช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 กรกฎาคม  เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า หรือมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 66,606 รายต่อวัน

ขณะที่ก่อนหน้านี้  แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ ระบุว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) กำลังพิจารณาปรับแก้แนวปฏิบัติป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพื่อแนะนำผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ

เฟาซีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่าเขาร่วมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขแนวปฏิบัติ ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การพิจารณาอย่างต่อเนื่อง พร้อมระบุว่าพื้นที่ท้องถิ่นบางส่วนที่มีอัตราการติดเชื้อสูงเริ่มกระตุ้นประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่

XxjpbeE007014 20210719 PEPFN0A001 1 scaled 1 e1627987303332

ปัจจุบันยอดผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต และผู้รักษาตัวจากโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาล พุ่งสูงต่อเนื่องในหมู่ประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ด้านคณะผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำและการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา เป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดผู้ป่วยพุ่งสูงเมื่อเร็วๆ นี้

ที่มา:สำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight