โควิดวันนี้ 21 ก.ค. นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 192,223,594 คน รักษาตัวหายแล้ว 174,921,375 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,133,302 ราย
ทำให้วันนี้ ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 510,117 ราย และมีผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 8,267 ราย
สถานการณ์ โควิดวันนี้ 21 ก.ค.
Worldometer เว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 35,081,719 ราย โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 44,232 ราย
และมีผู้เสียชีวิตสะสม 625,363 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 256 ราย ยังคงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตสะสม
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานผลการวิจัยล่าสุดว่า วัคซีนของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) มีประสิทธิภาพลดลงอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และสายพันธุ์แลมบ์ดา เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ปกติ
สถานการณ์ดังกล่าว บ่งชี้ว่า อาจมีความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนเพิ่ม ให้กับประชาชนราว 13 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนของ J&J โดยทีมผู้วิจัยให้คำแนะนำว่า การฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ควรใช้วัคซีน mRNA ของไฟเซอร์-ไบโอเอนเทค หรือวัคซีนของโมเดอร์นา
ดร.นาธาเนียล แลนเดา นักไวรัสวิทยาจาก Grossman School of Medicine แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ผู้นำทีมวิจัยครั้งนี้ เปิดเผยว่า ผลวิจัยดังกล่าว อาจทำให้คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ ต้องหันมาทบทวนคำแนะนำที่ว่า คนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิในขณะนี้
“สิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารนั้นไม่ใช่ว่าประชาชนไม่ควรรับวัคซีนของ J&J แต่เราหวังว่า ในอนาคตจะมีการฉีดวัคซีนของ J&J, ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาเพิ่มอีก 1 โดสเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย”
แม้ผลวิจัยครั้งนี้จะยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญหรือเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์ แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งก็ได้เปิดเผยว่า ผลวิจัยที่ออกมานั้นเป็นไปตามที่คาด เนื่องจากวัคซีนของบริษัทอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เมื่อฉีดครบ 2 โดส
ทั้งนี้ ผลวิจัยดังกล่าวขัดแย้งกับผลวิจัยในกลุ่มทดลองเล็ก ๆ ที่ J&J เผยแพร่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า การฉีดวัคซีนของ J&J เพียง 1 โดสก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้ แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วถึง 8 เดือน
สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดของประเทศอื่น ๆ นั้น อินเดีย ประเทศที่มียอดสะสมการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิดล่าสุดที่ 31,215,142 ราย ส่วนบราซิล ในอันดับ 3 อยู่ที่ 19,419,741 ราย
ประเทศ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 5 ล้านราย ได้แก่ รัสเซีย ฝรั่งเศส ตุรกี และ สหราชอาณาจักร
ส่วนประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 4 ล้านราย ได้แก่ อาร์เจนตินา โคลอมเบีย อิตาลี สเปน
ขณะที่ในอาเซียนนั้น กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 38,325 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,950,058 ราย สูงสุดในกลุ่มอาเซียน
ส่วนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 1,280 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 76,200 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 4,516 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,517,903 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 58 ราย มาอยู่ที่ 26,844 ราย สูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สหรัฐ’ ผวา! เจอโควิดระบาดใหญ่ ‘กลุ่มคนไม่ฉีดวัคซีน’ ผู้ป่วยเริ่มล้นโรงพยาบาล
- อย.สหรัฐ เพิ่มคำเตือน วัคซีนโควิด ‘จอห์นส้นฯ’ เสี่ยง ‘ปลายเส้นประสาทอักเสบ-กล้ามเนื้ออ่อนแรง’
- ‘อนามัยโลก’ เตือน ‘เดลตา’ จ่อเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์หลัก ระบาดทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือน