COVID-19

มาเลย์ ทุ่มกว่า 1 ล้านล้าน เยียวยา ‘ธุรกิจ-ประชาชน’ เจอผลกระทบ ‘ล็อกดาวน์’

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย “มูห์ยิดดิน ยัสซิน” ประกาศมาตรการเยียวยาภาคธุรกิจ และประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 1.5 แสนล้านริงกิต (3.62 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 1.14 ล้านล้านบาท

ระหว่างการแถลงต่อชาวมาเลเซีย ที่การถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศนั้น นายยัสซิน กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะรวมถึงการที่รัฐบาลแจกเงินสดจำนวน 10,000 ล้านริงกิต (ประมาณ 77,000 ล้านบาท) แก่ประชาชนที่มีรายได้ปานกลาง และรายได้ต่ำภายในสิ้นปีนี้ ทั้งยังจะมีมาตรการพักหนี้เป็นเวลา 6 เดือนให้แก่ประชาชนทุกคนโดยไม่มีการกำหนดเกณฑ์รายได้

นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซีย จะจัดตั้งกองทุนหลายแห่ง เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ และให้มีการลดหย่อนภาษีสำหรับธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รวมทั้งอุตสาหกรรมโรงแรม

shutterstock 1668045274

มาตรการดังกล่าว ถือเป็นมาตรการเยียวยาครั้งที่ 4 ในปีนี้ของนายยัสซิน ต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การประกาศมาตรการเยียวยาในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ทั่วประเทศออกไปโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะสิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงไม่มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลง

รัฐบาลมาเลเซีย ระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์จะได้รับการผ่อนคลายก็ต่อเมื่อยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน โดยเฉลี่ยในรอบสัปดาห์ ลดลงต่ำกว่า 4,000 รายต่อวัน

ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ในขณะนี้ รัฐบาลมาเลเซียจะอนุญาตให้เฉพาะภาคการผลิต และบริการที่จำเป็น เปิดดำเนินการได้เท่านั้น ขณะที่ศูนย์การค้า โรงเรียน และสวนสาธารณะยังคงปิดให้บริการ

นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซียยังควบคุมการเดินทางของประชาชน โดยจำกัดให้ประชาชนสามารถเดินทางออกนอกบ้านได้ครอบครัวละ 2 คนเท่านั้น และห้ามการเดินทางระหว่างรัฐ และเมืองต่าง ๆ ในประเทศ

ทั้งนี้ มาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 หลังจากประกาศล็อกดาวน์รอบแรก ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า มาเลเซีย มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ที่ 739,266 คน และมียอดสะสมผู้เสียจากการติดเชื้อโควิดที่ 5,001 ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo