COVID-19

‘อนามัยโลก’ อนุมัติใช้ฉุกเฉิน ‘วัคซีนซิโนแวค’ ตัวที่ 2 ของจีน

WHO อนุมัติใช้ วัคซีนต้านโควิด “ซิโนแวค” เป็นการฉุกเฉินแล้ว ถือเป็นวัคซีนตัวที่ 2 ของจีน ที่ผ่านการรับรอง หลังช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่งอนุมัติของซิโนฟาร์ม

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า WHO ได้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทซิโนแวค ไบโอเทคของจีน ในกรณีฉุกเฉินแล้ว นับเป็นวัคซีนโควิดตัวที่ 2 ของจีนที่ได้รับการรับรองจาก WHO ต่อจากวัคซีนโควิด ของซิโนฟาร์ม ที่เพิ่งผ่านการอนุมัติไปเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ซิโนแวค

การอนุมัติให้ใช้วัคซีน ในกรณีฉุกเฉินโดย องค์การอนามัยโลก ถือเป็นการส่งสัญญาณ ถึงหน่วยงานต่างๆ ในระดับชาติ ที่กำกับดูแลเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีน

นอกจากนี้ WHO ยังอนุมัติให้รวมวัคซีนโควิดของซิโนแวค ไว้ในโครงการโคแวกซ์ (Covax)  ของ WHO ด้วย โดยโครงการนี้ เป็นโครงการระดับโลก ในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประเทศยากจนเป็นส่วนใหญ่ ที่เผชิญกับปัญหาด้านปริมาณวัคซีน เนื่องจากอินเดียได้ระงับการส่งออกวัคซีน

คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอิสระของ WHO ระบุว่า คณะกรรมการได้แนะนำให้ใช้วัคซีนโควิดของซิโนแวกสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป และการฉีด 2 โดสนั้นให้เว้นระยะเวลาห่างกันราว 2-4 สัปดาห์

WHO ไม่ได้จำกัดอายุสูงสุดสำหรับผู้ฉีดวัคซีนของซิโนแวค เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ให้เห็นว่า มีแนวโน้มที่วัคซีนดังกล่าว จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ในผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ วัคซีนซิโนแวค เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccines) ซึ่งผลิตโดยการนำเชื้อไวรัสมาเพาะเลี้ยง แล้วทำให้เชื้อตาย เมื่อนำมาฉีด ร่างกายจะตอบสนองแบบธรรมชาติสร้างระบบภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิด

การประกาศรับรองวัคซีนซิโนแวคเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินนั้น เป็นผลสืบเนื่อง มาจากการประชุมของกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคของ WHO ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะได้ข้อสรุปดังกล่าว หลังจากทำการพิจารณาข้อมูลทางการแพทย์ล่าสุด เกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน รวมถึงกระบวนการในการผลิตวัคซีนของบริษัท

ซิโนแวค

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค ในกลุ่มประชากรตัวอย่าง แสดงให้เห็นว่าวัคซีนดังกล่าว สามารถป้องกันการป่วยแบบแสดงอาการได้ 51% และป้องกันการเข้าโรงพยาบาล จากการติดเชื้อโควิด-19 รุนแรงได้ 100%

ทางด้าน นพ.ทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO แสดงความยินดีกับเรื่องนี้ โดยระบุว่า วัคซีนซิโนแวค มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ทั้งการที่วัคซีนเก็บรักษาง่าย ทำให้ซิโนแวค เหมาะสมสำหรับประเทศที่มีรายได้น้อย

“ขณะนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้เครื่องมือในการช่วยชีวิตเหล่านี้ ไปถึงมือผู้คนที่ต้องการวัคซีนอย่างรวดเร็ว”

ทำความรู้จัก ซิโนแวค

“ซิโนแวค” หรือชื่อเต็มว่า ซิโนแวค ไบโอเทค เป็นบริษัทผู้ผลิตยา และชีวเภสัชภัณฑ์ สัญชาติจีน เชี่ยวชาญการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายวัคซีนป้องกันโรคระบาด

บริษัทตั้งขึ้นในปี 2542 โดยนายหยิน เว่ยตง อดีตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธา นและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง

ซิโนแวค

ก่อนหน้านี้ ซิโนแวคเคยผลิตวัคซีนมาแล้วหลายตัว เช่น วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ (ชื่อทางการค้า Healive) วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบี (ชื่อทางการค้า Bilive) วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ชนิด H5N1 (ชื่อทางการค้า Panflu) และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (ชื่อทางการค้า Anflu)

วัคซีนโควิด-19 ที่ซิโนแวคเป็นผู้ผลิตเป็นวัคซีนเชื้อตายที่มีชื่อว่า “โคโรนาแวค” (CoronaVac) วัคซีนตัวนี้ทำงานโดยการเหนี่ยวนำระบบภูมิคุ้มกันร่างกายมนุษย์ ให้สร้างแอนตจิบอดีขึ้นมาต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยแอนติบอดีจะยึดติดกับโปรตีนบางส่วนของไวรัส ไม่ให้เข้าสู่เซลล์ร่างกาย

ไวรัสเชื้อตายเป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ถูกใช้มานานกว่าศตวรรษ โดย “โจนัส ซัลก์”  ได้ใช้เทคโนโลยีวัคซีนเชื้อตายในการสร้างวัคซีนโปลิโอในปี 2498

การใช้เชื้อตายทำให้โคโรนาแวค แตกต่างจากวัคซีนที่ผลิตในโลกตะวันตก อย่างของบริษัทโมเดอร์นา และไฟเซอร์  ที่เป็นวัคซีน mRNA ซึ่งเป็นการฉีดพันธุกรรมโมเลกุล ที่เรียกว่า เอ็มอาร์เอ็นเอเข้าไปในร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างโปรตีนของไวรัส เพื่อกระตุ้นภูมิต้านทาน

ข้อได้เปรียบหลักอย่างหนึ่งของวัคซีนที่ผลิตโดยซิโนแวค คือ สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นธรรมดาที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสได้ เช่นเดียวกับวัคซีนของออกซ์ฟอร์ดซึ่งพัฒนาขึ้นจากเชื้อไวรัส ที่ก่อให้เกิดโรคหวัดในชิมแปนซี

ต่างจากวัคซีนของโมเดอร์นาซึ่งต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส และวัคซีนของไฟเซอร์ต้องเก็บที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส  ซึ่งต่อมาได้มีการปรับปรุงให้ไม่ต้องเก็บในอุณหภูมิเย็นจัดเท่านี้แล้ว

อ่านข่่าวเพิ่มเติม

Avatar photo