COVID-19

‘ไบโอเอนเทค’ เลือก ‘สิงคโปร์’ ฐานผลิตวัคซีน รุกตลาดเอเชีย

“ไบโอเอนเทค” ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่ และโรงงานผลิตวัคซีน ที่สิงคโปร์ เร็วสุดปี 2566 รองรับความต้องการในอนาคต จากตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ สัญชาติเยอรมัน “ไบโอเอนเทค” แถลงในวันนี้ (10 พ.ค.)ว่า บริษัทจะลงทุน “หลายล้านดอลลาร์” ในโรงงานผลิตวัคซีนแห่งใหม่ ที่สิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นโรงงานที่ผลิตวัคซีนชนิดเอ็นอาร์เอ็นเอ (mRNA) และเวชภัณฑ์รักษาโรคติดเชื้อต่าง ๆ รวมถึง มะเร็ง อย่างไรก็ดี นายอูกัวร์ ซาฮิน ซีอีโอ ไบโอเอนเทค ไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเจาะจงว่า โรงงานที่จะตั้งขึ้นในสิงคโปร์นี้ จะผลิตวัคซีนป้องกันโควิดด้วยหรือไม่

ไบโอเอนเทค

ไบโอเอนเทค แถลงว่า โรงงานแห่งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์ โดยในทันทีที่เปิดเดินเครื่องในปี 2566 จะมีกำลังผลิตวัคซีนแบบเอ็มอาร์เอ็นเอปีละหลายร้อยล้านโดส ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน ช่วยให้โลกมีวัคซีนที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีแบบนี้มากขึ้น และช่วยให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโรงงานผลิตวัคซีนที่จะสามารถรับมือกับโรคระบาดในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว

โรงงานแห่งใหม่ จะเริ่มต้อนการก่อสร้างในปีนี้ และเมื่อเริ่มดำเนินงาน คาดว่าจะมีการจ้างงานสูงสุดจำนวน 80 ตำแหน่ง

ไบโอเอนเทค จับมือตั้งบริษัทร่วมทุน รุกตลาดจีน

นอกจากนี้ การที่อัตราการฉีดวัคซีนในหลายประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังอยู่ในระดับต่ำนั้น ทำให้การผลิตวัคซีนขึ้นภายในภูมิภาคนี้ จะช่วยเร่งแผนการฉีดวัคซีนของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ได้

ตามแผนขยายธุรกิจเข้าสู่เอเชียนั้น ไบโอเอนเทค ยังจะรุกเข้าสู่ตลาดจีน ผ่านการจับมือกับ “ฝอซาน ฟาร์มา” บริษัทลูกของเซี่ยงไฮ้ ฝอซาน ฟาร์มาซูติคัล กรุ๊ป ตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา เพื่อการผลิต และจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัท โดยไบโอเอนเทค และฝอซาน ฟาร์มา จะลงทุนฝ่ายละ 100 ล้านดอลลาร์ ในบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้

ทั้งนี้ การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นแรงกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีเยอรมันรายนี้ เริ่มรุกเข้ามาในตลาดเอเชีย โดยเมื่อปี 2563 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่ามาอยู่ที่ 482 ล้านยูโร โดยมีกำไรสุทธิที่ 15 ล้านยูโร เทียบกับปี 2562 ที่บริษัทมีตัวเลขขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 179 ล้านยูโร

สิงคโปร์ฉีดวัคซีนโควิดมากสุดในภูมิภาค

การเคลื่อนไหวข้างต้น  ยังเกิดขึ้นหลังเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สิงคโปร์ กลายเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่อนุมัติวัคซีนป้องกันวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ และไบโอเอนเทค

สิงคโปร์ ซึ่งได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นาด้วยนั้น นำหน้าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ ในแง่ของการฉีดวัคซีน โดยนับถึงช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีประชากรสิงคโปร์ราว 23% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม

0010

ทั้งนี้ ข้อมูลที่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) รวบรวมไว้ นับถึงวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่า 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว 35,191,622 โดส

  1. สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส
  2. กัมพูชา จำนวน 2,4608,983 โดส
  3. อินโดนีเซีย จำนวน 21,313,654 โดส
  4. มาเลเซีย จำนวน 1,624,272 โดส
  5. ลาว จำนวน 345,818 โดส
  6. ไทย จำนวน 1,601,838 โดส
  7. บรูไน จำนวน 10,715 โดส
  8. พม่า จำนวน 1,040,000 โดส
  9. ฟิลิปปินส์ จำนวน 2,129,185 โดส
  10. เวียดนาม จำนวน 585,539 โดส

ขณะที่ข้อมูลของ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 หรือ ศบค. ระบุถึงการฉีดวัคซีนในไทยว่า จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-9 พฤษภาคม 2564 นั้น มียอดรวมอยู่ที่  1,809,894 โดส ใน 77 จังหวัด

  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 : 1,296,440 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 : 513,454 ราย

ไบโอเอนเทค

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo