โควิดวันนี้ 14 เม.ย. นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 138,013,074 คน รักษาตัวหายแล้ว 111,032,185 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,971,864 ราย
สหรัฐ มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (32,070,784) รองลงมาคือ อินเดีย (13,871,321), บราซิล (13,601,566), ฝรั่งเศส (5,106,329), รัสเซีย (4,657,883), สหราชอาณาจักร ( 4,375,814), ตุรกี (3,962,760) อิตาลี (3,793,033), สเปน (3,376,548) และเยอรมนี (3,031,836)
ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย ได้แก่ โปแลนด์ อาร์เจนตินา โคลอมเบีย เม็กซิโก และอิหร่าน
ส่วนประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย ได้แก่ ยูเครน เปรู สาธารณรัฐเช็ก อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ เนเธอร์แลนด์ ชิลี แคนาดา และโรมาเนีย
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (577,179) ตามมาด้วยบราซิล (358,718), เม็กซิโก (209,702), อินเดีย (172,115), สหราชอาณาจักร (127,123), อิตาลี (115,088) และรัสเซีย (103,601)
วานนี้ (13 เม.ย.) นายเจฟฟ์ ซีนต์ส ผู้ประสานงานหน่วยงานรับมือโควิด-19 ประจำทำเนียบขาว แถลงว่า โครงการฉีดวัคซีนทั่วสหรัฐ จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ ระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หลังจากพบกรณีการเกิดลิ่มเลือดอุดตันชนิดหายาก และเป็นอันตรายในผู้หญิง 6 รายที่ได้รับวัคซีนของบริษัท
นายซีนต์ส ระบุว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์ และโมเดอร์นาเพียงพอสำหรับฉีดให้ชาวอเมริกัน 300 ล้านคน และได้รับวัคซีนจากทั้ง 2 บริษัทมากกว่า 25 ล้านโดสต่อสัปดาห์ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งในสัปดาห์นี้ สหรัฐจะได้รับวัคซีนจากไฟเซอร์ และโมเดอร์นา 28 ล้านโดส ซึ่งมากพอสำหรับการเดินหน้าฉีดวัคซีน 3 ล้านเข็มต่อวัน และบรรลุเป้าหมาย 200 ล้านเข็มภายใน 100 วันแรก ของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายไบเดน อีกทั้งยังมากพอที่จะฉีดให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคน ที่ต้องการรับวัคซีน
แถลงการณ์ดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมกัน แนะนำให้สหรัฐระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ชั่วคราว ในระหว่างที่ทั้ง 2 หน่วยงานกำลังตรวจสอบกรณีการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่อาจเป็นอันตรายในผู้หญิง 6 คนที่ได้รับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
แถลงการณ์ระบุว่า ช่องทางการกระจายวัคซีนของรัฐบาลกลาง รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีนที่เป็นจุดใหญ่ๆ จะระงับการใช้วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และคาดว่ารัฐต่าง ๆ ตลอดจนผู้ให้บริการฉีดวัคซีนรายอื่น ๆ จะปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน
จนถึงขณะนี้ สหรัฐฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มากกว่า 6.8 ล้านโดสแล้ว โดยแถลงการณ์ระบุด้วยว่า ผู้หญิง 6 คนที่เกิดลิ่มเลือดอุดตัน หลังได้รับวัคซีนนั้น มีอายุระหว่าง 18-48 ปี โดยอาการเกิดขึ้นในวันที่ 6-13 หลังได้รับวัคซีน หญิงรายหนึ่งถึงขั้นเสียชีวิต ขณะที่หญิงรายที่ 2 ซึ่งอยู่ในรัฐเนแบรสกา เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการวิกฤติ
สำหรับสถานการณ์โควิดในอาเซียนนั้น ล่าสุด อินโดนีเซีย ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มากสุดในภูมิภาคนี้ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่ 5,702 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,577,526 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 126 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 42,782 ราย
ส่วนฟิลิปปินส์ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 8,571 คน นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ที่ฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อใหม่รายใหม่ ต่ำกว่าระดับ 10,000 คน ทำให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดอยู่ที่ 884,783 คน โดยมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดรายใหม่จำนวน 137 ราย ส่งผลให้ยอดสะสมผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 15,286 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แนะมาตรการ ‘ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง’ กักตัว 14 วัน ตรวจโควิด 2 รอบ
- ‘กัมพูชา’ รุดหน้า! ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 1 ล้านคน ‘ฮุนเซน’ ตบรางวัลยินดี
- ‘คปภ.’ ไฟเขียว รักษา ‘โควิด’ ที่ไหน ก็ ‘เคลมประกัน’ ได้หมด
