ฟิลิปปินส์ยืนยัน พยาบาลเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนซิโนแวค เป็นเพราะติดเชื้อไวรัสโควิด
ดร.รอมเมล โลโบ ประธานคณะกรรมการติดตามผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ของฟิลิปปินส์ แถลงวันนี้ (18 มี.ค.)ว่า พยาบาลวัย 47 ปี ที่เสียชีวิต เพียงไม่กี่วัน หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของซิโนแวค บริษัทเวชภัณฑ์จีนนั้น ไม่ได้เป็นเพราะการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด
“ผู้ป่วยเสียชีวิต เพราะติดเชื้อไวรัสโควิด” ดร.โลโบ กล่าว และว่า พยาบาลรายนี้ อาจสัมผัสกับบางคน ที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัส แต่ไม่ได้แสดงอาการออก โดยเธอตรวจพบการติดเชื้อโควิด เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่การตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันต่อมา กลับมีผลออกมาเป็นลบ
ดร.โลโบ กล่าวด้วยว่า ผลตรวจที่ออกมาในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นั้น อาจเป็นซากเชื้อไวรัส เนื่องจากพยาบาลรายนี้ เคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านการตรวจว่าเชื้อเป็นลบ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พยาบาลหญิง ก็เข้ารับการฉีดวัคซีนของซิโนแวคโดสแรกในวันที่ 4 มีนาคม แต่กลับตรวจเจอเชื้อโควิด-19 เป็นบวกอีกในวันที่ 8 มีนาคม และถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันที่ 10 มีนาคม ก่อนเสียชีวิตในอีก 3 วันต่อมา
ดร.โลโบ ระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ทั้งยังใช้ยาลดความดันโลหิตสูง ยาสำหรับโรคหืด และควบคุมอาหาร เพื่อป้องกันอาการโรคเบาหวานกำเริบด้วย พร้อมยืนยันว่า วัคซีนไม่สามารถกระตุ้นการติดเชื้อโควิด-19
“วัคซีนไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ เพราะเป็นไวรัสที่ตายไปแล้ว แต่มันจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ตอบสนองต่อเชื้อ”
ด้าน นพ.เบฟเวอลี โฮ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ กล่าวว่า โครงการฉีดวัคซีนจะยังเดินหน้าต่อไป ซึ่งการตรวจสอบชี้ชัดแล้วว่า นางพยาบาลเสียชีวิตเพราะป่วยเป็นโรคโควิด-19 จึงไม่มีเหตุผลที่จะชะลอการฉีดวัคซีน
เขาบอกด้วยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ ต้องเร่งยับยั้งการระบาดในประเทศ หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาสูงเกือบ 5,000 คนต่อวัน ส่งผลให้ยอดป่วยสะสมอยู่ที่ 640,984 คน และเสียชีวิตแล้ว 12,887 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- WHO แถลงการณ์แนะใช้วัคซีนโควิด-19 ‘แอสตร้าเซเนก้า’ ต่อไป
- ‘อียู’ เล็งออก ‘ใบรับรองปลอดโควิด’ เปิดเสรีเดินทาง 27 ชาติสมาชิก
- มาดูกัน ประเทศที่ระงับฉีด ‘วัคซีนแอสตราเซนเนกา’ เพราะอะไรบ้าง