COVID-19

‘แอสตราเซเนกา’ ยันไม่พบหลักฐาน ‘วัคซีนโควิด’ ทำเกิดลิ่มเลือดอุดตัน

“แอสตราเซเนกา” ระบุ การตรวจสอบข้อมูล ไม่พบพยานหลักฐาน ที่บ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมานั้น เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ขณะ ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ กลายเป็น 2 ชาติล่าสุด สั่งระงับการใช้วัคซีนของบริษัท

ยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์โลก “แอสตราเซเนกา” แถลงว่า บริษัทได้ดำเนินการทบทวนข้อมูลความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นมา และไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า วัคซีนของบริษัท เป็นสาเหตุที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันเพิ่มขึ้น

shutterstock 1906836895

“การตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัยทั้งหมด ที่มีอยู่อย่างรอบคอบ ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ที่จะทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตันในปอด การอุดตันของหลอดเลือดดำส่วนลึก หรือภาวะเกล็ดเลือดต่ำในทุกกลุ่มอายุ เพศ หรือเฉพาะในประเทศใดประเทศหนึ่ง”

การทบทวนข้อมูลดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมผู้คนมากกว่า 17 ล้านคน ที่ได้รับวัคซีนในสหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป (อียู) เกิดขึ้น ในช่วงเวลาเดียวกับที่ ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ กลายเป็น 2 ประเทศล่าสุด ที่เดินตามรอย เดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ สั่งระงับการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา เพราะประเด็นเรื่องลิ่มเลือดนี้

ในขณะที่ออสเตรีย ก็ได้สั่งให้ระงับการใช้งานวัคซีนแอสตราเซเนกาจำนวนหนึ่งไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังพบผู้ได้รับวัคซีนเสียชีวิต จากความผิดปกติเรื่องการแข็งตัวของเลือด

นายปีเตอร์ อิงลิช ที่ปรึกษาอาวุโสของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ด้านการควบคุมโรคติดต่อกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุดที่ประเทศต่าง ๆ ระงับการฉีดวัคซีน เนื่องจากข้อควรระวังดังกล่าว ซึ่งเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายในการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนให้เพียงพอ และเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเป้าหมาย การชะลอการแพร่กระจายของไวรัสและเป้าหมายยุติการระบาดของโรค

ก่อนหน้านี้ สำนักงานเวชภัณฑ์ยุโรป และองค์การอนามัยโลก ก็ได้ออกมายืนยันเช่นกันว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า การเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ในผู้ที่รับวัคซีน มีสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีนต้านโควิดของแอสตราเซเนกา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo