สื่อสหรัฐรายงานผลการศึกษาฉบับใหม่ พบ “โควิด-19” วิวัฒนาการตามธรรมชาติ ระบาดกว้างกว่าที่คิด
หนังสือพิมพ์สหรัฐรายงานผลการศึกษาใหม่ ซึ่งชี้ว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มีวิวัฒนาการตามธรรมชาติ และมีอัตราการแพร่ระบาดสูงกว่าที่คาดมาก
“ผลการศึกษาล่าสุดอย่างน้อย 4 ฉบับ ระบุว่าเชื้อไวรัสโคโรนาเกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสโคโรนาที่ระบาดในค้างคาวและตัวนิ่มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น บ่งชี้ว่าเชื้อโรคเหล่านี้แพร่ระบาดในวงกว้างกว่าที่คาดและมีโอกาสวิวัฒนาการสูง” เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) ระบุเมื่อวันที่ 1 มีนาคม
ผลการศึกษาอีกฉบับพบว่าการเปลี่ยนแปลงของกรดอะมิโน ซึ่งเป็นสารประกอบของโปรตีน ในโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้เชื้อไวรัสฯ สามารถแพร่เชื้อสู่เซลล์มนุษย์ได้
“งานวิจัยล่าสุดเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่ยืนยันว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) มีต้นกำเนิดมาจากค้างคาวและมีวิวัฒนาการตามธรรมชาติก่อนจะแพร่ระบาดสู่มนุษย์ โดยคาดว่ามีการแพร่เชื้อผ่านสัตว์ตัวกลางอีกชนิด”
หนังสือพิมพ์ระบุว่า ผลการศึกษาเหล่านี้เป็นเหตุผลที่คณะผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งนำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เสาะหาข้อมูลและหลักฐานในประเทศอื่นๆ หลังลงพื้นที่ตรวจสอบในนครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน เสร็จสิ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
คณะผู้เชี่ยวชาญของ WHO ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากออสเตรเลีย เดนมาร์ก เยอรมนี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ กาตาร์ รัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และเวียดนาม เดินทางถึงอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 14 มกราคม เพื่อร่วมงานกับคณะนักวิทยาศาสตร์จีนในการสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน คณะผู้เชี่ยวชาญทำการวิจัยเสร็จสิ้นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และแสดงผลการศึกษาเบื้องต้นระหว่างงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นในจีน ตัดความเป็นไปได้ของข้อสมมติฐานที่ว่าเชื้อไวรัสฯ หลุดออกมาจากห้องทดลอง พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายดำเนินการโดยยึดหลักทางวิทยาศาสตร์
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ระทึก!! ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ติดโควิด
- โควิดวันนี้ 4 มี.ค. ทั่วโลกติดเชื้อ 115.74 ล้าน ‘อียู’ เล็งเพิ่มผลิตวัคซีน ตั้งเป้าเกิน 2 พันล้านโดส/ปี
- ผงะ! โควิด-19 กลายพันธุ์ใน ‘บราซิล’ แพร่เชื้อง่ายสองเท่า-ติดเชื้อซ้ำได้