COVID-19

‘อ็อกซ์ฟอร์ด’ ยืนยัน ‘วัคซีนแอสตราเซเนกา’ ฉีดเข็มแรก 3 เดือน ต้านไวรัส 76%

แอสตราเซเนกา : อ็อกซ์ฟอร์ด ยืนยันผลศึกษา พบ “วัคซีนต้านโควิด” พัฒนาร่วมระหว่าง มหาวิทยาลัย กับ แอสตราเซเนกา ต้านไวรัสได้ถึง 76% หลังฉีดเข็มแรกไปแล้ว 3 เดือน 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ระบุว่า วัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และบริษัท แอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัส 76% หลังจากได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 3 เดือน และจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อฉีดวัคซีนเข็มที่ 2

แอสตราเซเนกา

การศึกษาดังกล่าวช่วยหนุนการตัดสินใจของอังกฤษ ให้ขยายระยะการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ห่างกัน 12 สัปดาห์ ซึ่งทางแอสตราเซเนกาเองก็สนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ เพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุด

นายแอนดรูว์ พอลลาร์ด หัวหน้าการทดลองวัคซีน ของอ็อกซ์ฟอร์ด  ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า ถึงแม้จะไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ต่อกลุ่มผู้สูงอายุ แต่วัคซีนสามารถสร้างการตอบสนองภูมิคุ้มกันที่ดีในกลุ่มคนสูงวัย เท่าเทียมกับในกลุ่มคนหนุ่มสาว และให้การคุ้มครองเท่า ๆ กัน

ผลศึกษาที่ออกมา ยังมีขึ้นหลังก่อนหน้านี้ วัคซีนแอสตราเซเนกา ตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างมาก จากเจ้าหน้าที่รัฐบาลของหลายประเทศในยุโรป ที่กังวลว่า การทดลองวัคซีนดังกล่าว่ไม่มีข้อมูลแสดงถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ

ด้านประธานาธิบดีเอมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสจะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ให้กับประชาชนที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี หลังจากหน่วยงานด้านสาธารณสุข ระบุว่า มีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต่อผู้สูงอายุ โดยเห็นว่า ควรฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 50-65 ปี ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และบุคลากรทางการแพทย์ เป็นกลุ่มแรก

ก่อนหน้านี้ ฝรั่งเศสได้อนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา ไปแล้ว และเป็นการอนุมัติใช้เช่นเดียวกับในอิตาลี ออสเตรีย และเยอรมนี ซึ่งมีการแนะนำว่าไม่ควรฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี.

การออกมาเปิดเผยข้างต้น ยังมีขึ้นหลังในสัปดาห์นี้ ผู้ผลิตยาในนครเสิ่นเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เริ่มทดลองผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากแอสตราเซเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ข้ามชาติแล้ว

บริษัท เสิ่นเจิ้น คังไท่ ไบโอโลจิคัล โปรดักส์ จำกัด ประกาศสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำพา ซึ่งพัฒนาโดยแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และผ่านการอนุมัติใช้งานในกรณีฉุกเฉินในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ปีก่อน

โรงงานดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ขนาด 2,200 ตารางเมตร และมีกำลังการผลิต 400 ล้านโดสต่อปี โดยบริษัท ลงนามข้อตกลงกับแอสตราเซเนกาเมื่อเดือนสิงหาคม 2563  เพื่อนำวัคซีนเข้ามาในจีน และยื่นจดทะเบียนทางคลินิก

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาวัคซีนโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย และกำลังวางแผนเริ่มการทดลองระยะที่ 3 ด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo