COVID-19

‘ออกซ์ฟอร์ด’ เตรียมวัคซีนเวอร์ชั่นใหม่ สกัด ‘โควิดกลายพันธุ์’

มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ของอังกฤษ เตรียมเร่งผลิต วัคซีนโควิด -19 เวอร์ชั่นใหม่ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ ที่แพร่ระบาดได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งพบในอังกฤษ แอฟริกาใต้ และบราซิล

หนังสือพิมพ์เดอะเทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานอ้างคำยืนยันของ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ว่า คณะนักวิทยาศาสตร์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ วัคซีนโควิด -19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และแอสตราเซเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ กำลังดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อปรับโครงสร้างของเทคโนโลยี และอยู่ระหว่างการประเมินว่า พวกเขาสามารถที่จะปรับปรุงแพลตฟอร์มวัคซีนชาด็อกซ์ (ChAdOx) ได้รวดเร็วแค่ไหน

วัคซีนโควิด

โฆษกของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า มหาวิทยาลัยกำลังประเมินผลกระทบของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ที่มีต่อการฉีดวัคซีนด้วยความระมัดระวัง รวมถึงประเมินกระบวนการที่จำเป็นต่อการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ปรับปรุงใหม่อย่างรวดเร็ว

ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า หน่วยงานกำกับดูแลยาของอังกฤษ มีความพร้อม และสามารถอนุมัติใช้วัคซีน ที่ปรับปรุงใหม่เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์

อย่างไรก็ดี ผลการทดลองในห้องปฏิบัติการ เมื่อไม่นานมานี้ชี้ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค มีแนวโน้มที่จะป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ที่กำลังระบาดทั่วโลกได้

ไบโอเอ็นเทค ระบุด้วยว่า บริษัทเตรียมเผยแพร่รายงานวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกาใต้ ที่มีข้อมูลมากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

นอกจากนี้ แอสตราเซเนกา โมเดอร์นา บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ และเคียวแวก บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนี กำลังทดสอบเช่นกันว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่แต่ละบริษัทพัฒนาขึ้นมานั้น จะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้หรือไม่

วัคซีนโควิด

แคลิฟอร์เนียพบ ‘โควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่’ ระบาดหนัก หวั่น ‘ดื้อวัคซีน’

สำนักสาธารณสุขรัฐแคลิฟอร์เนีย (CDPH) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า หลายเทศมณฑลทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียตรวจพบโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแตกต่างจากเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ บี.1.1.7 (B.1.1.7) ที่ถูกพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร โดยคณะผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ใหม่นี้อาจดื้อวัคซีน

อกสารจากหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า เชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีชื่อว่าแอล452อาร์ (L452R) ถูกพบครั้งแรกในเดนมาร์กเมื่อเดือนมีนาคม 2563 และในรัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่เดือนพฤษภาคมก่อนแพร่กระจายไปทั่ว โดยเฉพาะเทศมณฑลซานตาคลารา โดยถูกตรวจพบบ่อยขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา ทว่ายังเร็วเกินจะทราบแน่ชัดว่าการแพร่กระจายรุนแรงในระดับรัฐ ระดับประเทศ หรือระดับโลก

ชาร์ลส์ ชิว นักไวรัสวิทยาและศาสตราจารย์สาขาเวชศาสตร์ชันสูตรจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานฟรานซิสโก (UCSF) ระบุว่า ด้วยการลำดับพันธุกรรมในห้องปฏิบัติการ พบเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ใหม่ในกลุ่มตัวอย่างเพิ่มจาก 3.8% เป็นราว 25% ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน

สำนักฯ กล่าวว่านับเป็นเรื่องปกติที่ตรวจพบเชื้อไวรัสฯ หลายสายพันธุ์ และสำนักฯ กำลังทำงานกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) หน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น และหุ้นส่วนด้านการลำดับพันธุกรรมในห้องปฏิบัติการ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ใหม่นี้ รวมถึงวิธีการแพร่ระบาด

ดร. ซารา โคดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศมณฑลซานตาคลารา ยอมรับว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ใหม่ ถูกตรวจพบในการระบาดขนาดใหญ่หลายระลอกของซานตาคลารา พร้อมชี้ข้อเท็จจริงว่า “สัญญานเตือน” กำลังบ่งบอกว่าเชื้อไวรัสฯ ก่อโรคโควิด-19 ยังคงกลายพันธุ์และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง

ชิว ผู้ชี้ว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์แอล452อาร์ ถูกตรวจพบในหมู่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น กล่าวว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ใหม่ เปลี่ยนแปลงโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสฯ จึงมีโอกาสที่วัคซีนที่กำลังพัฒนาในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพป้องกันน้อยลง

อนึ่ง วัคซีนที่กำลังแจกจ่ายในสหรัฐ ในปัจจุบันถูกออกแบบให้สร้างภูมิคุ้มกันแก่ผู้ฉีดด้วยการยับยั้งโปรตีนหนามของเชื้อไวรัส

วัคซีนโควิด

บทความฉบับหนึ่งบนเว็บไซต์เซลล์ดอทคอม (Cell.com) เมื่อเดือนกันยายน 2563 ซึ่งเขียนโดยคณะนักวิจัยของจีนและแคนาดา ระบุว่าเชื้อไวรัส สายพันธุ์ แอล452อาร์ “ลดความไวต่อโมโนโคลนอลแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (mAbs)” ซึ่งถูกใช้ใน วัคซีนโควิด ที่ได้รับอนุมัติในปัจจุบันหลายตัว เพื่อยับยั้งการเชื่อมกันระหว่างโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสฯ และเซลล์ที่ติดเชื้อ

“ข้อมูลล่าสุดนั้นยังใหม่มากแต่ก็สร้างความวิตกกังวลจริงๆ ว่าเชื่อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อวัคซีน” ชิวกล่าว “ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ชวนไม่สบายใจที่สุด แน่นอนว่าเราต้องทำการศึกษาในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น”

ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 2,973,174 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 33,593 ราย เมื่อนับถึงวันที่ 18 มกราคม 2564 โดยจำนวนผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 0.6% หรือ 201 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo