สิงคโปร์และฮ่องกงประกาศเลื่อนโครงการทราเวลบับเบิล ที่เป็นการจับคู่ด้านการท่องเที่ยว ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังฮ่องกงพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น
สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจ และพาณิชย์ ของฮ่องกง แถลงว่า จะมีการทบทวน การจับคู่การเดินทาง ทางอากาศระหว่างกัน แบบไม่ต้องกักตัว หรือ ทราเวล บับเบิล ระหว่างฮ่องกง กับสิงคโปร์ ในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ เพื่อประเมินถึงสถานการณ์ของฮ่องกง ที่กำลังเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 4 อยู่ และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ
ก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 ฝ่าย วางแผนเปิดโครงการดังกล่าวในวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ต้องประกาศเลื่อนออกไป 2 สัปดาห์ เพราะฮ่องกงพบตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ความล่าช้าของโครงการดังกล่าวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์และฮ่องกง แต่ยังรวมถึงอีกหลายประเทศที่เตรียมนำโครงการนี้มาใช้เป็นต้นแบบในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19
การท่องเที่ยวฮ่องกงเผยว่า สิงคโปร์เป็นตลาดสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฮ่องกง และมีนักท่องเที่ยวสิงคโปร์เดินทางมายังฮ่องกงกว่า 450,000 คนในปีที่ผ่านมา และมีชาวฮ่องกงเดินทางไปยังสิงคโปร์เกือบ 500,000 คนเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็น 1 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปสิงคโปร์มากที่สุดอีกด้วย
ทางด้าน เบรนดัน โซบี นักวิเคราะห์โซยี อะวิเอชัน ในสิงคโปร์ แสดงความเห็นว่า หากการตัดสินเลื่อนโครงการข้างต้นออกไปนั้น ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำรายอื่นๆ ที่จะเดินหน้าจัดทำทราเวล บับเบิล ของตัวเองนั้น ก็จะถือเป็นผลกระทบที่รุนแรงอย่างมาก
เขายังแสดงความหวังว่า สิงคโปร์จะเดินหน้าจับคู่ทำทราเวล บับเบิล กับประเทศ หรือดินแดนอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งฮ่องกงเอง ก็จะเดินหน้าในเรื่องนี้ต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจอโรคเลื่อน! สิงคโปร์-ฮ่องกง หวาดโควิด ชะลอเปิด Travel Bubble
- ดีเดย์ 22 พ.ย. ‘สิงคโปร์-ฮ่องกง’ นำร่องเปิดเที่ยวบิน ‘Travel Bubble’
- ‘ฮ่องกง-สิงคโปร์’ บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น ‘Travel Bubble’ เดินทางไม่ต้องกักตัว