ศูนย์ป้องกัน และควบคุมโรคสหรัฐ (CDC) ระบุ ผู้คนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ไม่มีอาการป่วย อาจจะไม่จำเป็นที่ต้องเข้าตรวจหาเชื้อแต่อย่างใด ท่าทีที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับบรรดาแพทย์ และนักการเมือง ทั้งยังเรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนัก ว่าเป็นการออกคำแนะ ที่มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง
สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า คำแนะนำล่าสุดของ CDC ที่ออกมาในสัปดาห์นี้ เป็นการเปลี่ยนท่าทีไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยก่อนหน้านี้ CDC ชี้ว่า ต้องทดสอบหาเชื้อ จากผู้สัมผัสใกล้ชิด กับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด
พล.ร.อ.เบรตต์ กีรัวร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และบริการบุคคล ของสหรัฐ กล่าวว่า เป้าหมายอยู่ที่ การทดสอบอย่างเหมาะสม ไม่ใช้การทดสอบ เพื่อประโยชน์ของตัวเองอีกต่อไป พร้อมยืนยันว่า ไม่มีแรงกดดันทางการเมืองจากรัฐบาล ที่อยู่เบื้องหลังคำแนะนำที่ออกมาล่าสุดนี้
“คำแนะนำนี้ มาจากบุคคลทางการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ ที่หารือกันอย่างกว้างขวาง ภายในหน่วยงาน”
เมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) ซีเอ็นเอ็น และนิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐ ได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้ผลักดันการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำดังกล่าว
ทางด้านนางซูซาน เบลีย์ ประธานสมาคมการแพทย์อเมริกัน (AMA) ซึ่งเป็นสมาคมแพทย์ขนาดใหญ่สุดของสหรัฐ แสดงความเห็นว่า คำแนะนำนี้ อาจจะยิ่งเร่งให้เชื้อไวรัสระบาดเพิ่มมากขึ้น
“การแนะนำให้ผู้คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด แต่ไม่มีอาการป่วย ไม่ต้องตรวจหาเชื้อ คือ การเจอกับการแพร่ระบาดในชุมนุม และจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น”
ขณะที่ นพ.แอนโทนี ฟอซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการหารือเกี่ยวกับคำแนะนำดังกล่าว บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการตีความต่อคำแนะนำเหล่านี้ และวิตกว่า จะทำให้ผู้คนเข้าใจกันไปผิดๆ ว่า การไม่มีอาการป่วย ไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ทั้งที่จริงแล้ว เป็นเรื่องที่น่ากังวล
ที่ผ่านมา รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างหนัก ถึงการจัดการตรวจหาเชื้่อไวรัสโควิด-19 โดยที่หลายรัฐในสหรัฐ มีการดำเนินในเรื่องนี้ น้อยเกินกว่าที่จะช่วยควบคุมโรค ในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ได้
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐก็ได้บอกกับกลุ่มคนที่มาฟังเขาปราศรัยว่า การตรวจหาเชื้อ เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะจะทำให้เกิดการเจอผู้ติดเชื้อมากขึ้น และทำให้สหรัฐดูเหมือนจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าความเป็นจริง
ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า เขาได้เรียกร้องให้คณะทำงานชะลอการตรวจหาเชื้อให้ช้าลง แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว บอกในขณะนั้นว่า สิ่งที่ทรัมป์พูด เป็นแค่การพูดตลกเท่านั้น
จนถึงขณะนี้ สหรัฐมียอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงถึง 6,000,365 คน มากสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก และยังทิ้งห่างจากบราซิล ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมมากเป็นอันดับ 2 ของโลกเกือบเท่าตัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ญี่ปุ่น’ เล็งวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก ‘โตเกียว 2020’ รอบใหม่ ต้นปี 64
- WHO ร้องทั่วโลกหาข้อสรุป ‘ภูมิคุ้มกันโควิด’ อยู่ได้นานแค่ไหน หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อรอบ 2
- ‘ไทย-สหรัฐ’ ร่วมสร้างความเข้มแข็ง ระบบสอบสวนโรค รับมือโควิดระบาด