รัฐวิคตอเรีย ของออสเตรเลีย ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ เข้าสู่การปิดเมือง หรือล็อกดาวน์ ระดับ 4 บังคับใช้เคอร์ฟิว “เมลเบิร์น” เมืองเอกของรัฐ ในความพยายามที่จะควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นายดาเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในรัฐ ซึ่งมีประชากรมากสุด เป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลียว่า สถิติผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 11,937 คน มากที่สุดในประเทศ โดยในช่วง 24 ชั่วโมง นับถึงวันนี้ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 429 คน และมียอดรวมผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรัฐที่ 136 คน
การตัดสินใจปิดเมืองของรัฐวิกตอเรีย ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง โดยที่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ระบุว่า เป็น “เรื่องเศร้าที่จำเป็น” เพื่อยุติการแพร่ระบาด
ภายใต้คำสั่งปิดเมือง ที่มีความเข้มงวดในระดับที่ 4 นี้ เมืองเมลเบิร์น จะถูกบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 20.00 น ถึงเวลา 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ทุกวัน นาน 6 สัปดาห์ ทั้งยังห้ามประชาชนเกือบ 5 ล้านคน ออกจากบ้าน ยกเว้นเพื่อทำงาน รักษาพยาบาล หรือดูแลบุคคลอื่น
เมื่ออยู่นอกเวลาเคอร์ฟิว กำหนดให้แต่ละบ้าน สามารถส่งตัวแทนออกจากบ้านได้เพียง 1 คน และวันละ 1 ครั้งเท่านั้น ทั้งยังสามารถเดินทางไปได้ ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร และ “ต้องเป็นเหตุจำเป็นเท่านั้น”
นอกจากนี้ ยังจำกัดเวลาการออกกำลังกายนอกบ้านไว้วันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง
ทางการยังอนุญาตให้ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารเปิดให้บริการได้ แต่ในส่วนของร้านอาหารนั้น จำกัดเฉพาะการสั่งไปรับประทานที่บ้าน และบริการเดลิเวอรีเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ธุรกิจบางประเภท ที่ยังไม่เคยถูกบังคับให้ปิดดำเนินการ ในการปิดเมืองก่อนหน้านี้ จะถูกขอให้ปิดชั่วคราว
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจาก Worldometers แสดงให้เห็นว่า ออสเตรเลียมียอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 18,318 คน เสียชีวิตทั้งหมด 221 คน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ออสเตรเลีย’ พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม18 ราย สั่งปิด 2 โรงเรียนประถมใน ‘เมลเบิร์น’ หลังพบนักเรียนติดโควิด-19
- โควิดระบาดรอบ 2 แนวโน้มสูง ทั่วโลกเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม หลังคลายล็อก
- ‘นอร์เวย์’ วุ่น! เร่งหาผู้โดยสารเรือสำราญขั้วโลกเหนือ หลังพบติดโควิด-19 อื้อ