COVID-19

‘วัคซีนโควิด-19’ จีนโชว์ความสำเร็จขั้นแรก ไร้ผลข้างเคียงรุนแรง เล็งทดลองต่อที่ ‘บราซิล’

‘วัคซีนโควิด-19’ ใกล้สำเร็จ  ‘ซิโนแวค’ ประกาศผลทดลอง “วัคซีนโควิด-19” ในคน พบศักยภาพในการป้องกัน ไร้ผลข้างเคียงรุนแรง เตรียมทดลองระยะต่อไปในบราซิล ขณะ “โมเดอร์นา” ของอเมริกัน เล็งทดลองวัคซีนระยะ 3 ในเดือนกรกฎาคมนี้

ซิโนแวค ไบโอเทค บริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของจีน เปิดเผยว่า ‘วัคซีนโควิด-19’ ชื่อ “โคโรนาแวค” ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมา เพื่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ให้ผลการทดลองในคน ระยะที่ 1 และ 2 อย่างน่าพอใจ  สามารถดึงการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน โดยปราศจากผลข้างเคียงร้ายแรง

'วัคซีนโควิด-19'

ผลการทดลองของซิโนแวค แสดงให้เห็นว่า มากกว่า 90%  ของกลุ่มทดลอง ที่เข้าร่วม การทดสอบวัคซีน เกิดการชักนำของแอนติบอดีชนิดดี (NAb)  โดยผลการทดลองแบบสุ่ม ที่ใช้วิธีอำพราง 2 ฝ่าย และแบบใช้ยาปลอมภายใต้การควบคุม แสดงให้เห็นถึง การสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา อย่างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง โดยในจำนวนผู้ที่เข้าร่วมการทดลองทั้งหมด 743 คน อายุระหว่าง 18-59 ปีนั้น มีอยู่ 143 คน ที่อยู่ในการทดลองระยะที่ 1 ส่วนที่เหลืออีก 600 คน อยู่ในระยะที่ 2

ซิโนแวค เปิดเผยด้วยว่า การทดลองระยะที่ 3 จะเกิดขึ้นในบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงเกินกว่า 45,000 รายแล้ว โดยวัคซีนที่ซิโนแวคผลิตขึ้นมานี้ เป็นหนึ่งในห้าวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อ การทดสอบวัคซีน ของจีน และเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย ของการทดลองในมนุษย์ ก่อนขออนุมัติการใช้งานสาธารณะ

โมเดอร์นาจ่อทดลอง ‘วัคซีนโควิด-19’ ระยะ 3 ก.ค.นี้ 

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า โมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติอเมริกัน จะเริ่มการศึกษาวัคซีนทดลองสำหรับต้านโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระยะที่ 3 ได้ในเดือนกรกฎาคมนี้

โมเดอร์นา เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดทำเอกสารโครงการวิจัย เพื่อการศึกษาระยะ 3 เสร็จสิ้นแล้ว โดยอิงจากข้อมูลตอบรับขององค์การอาหาร และยา สหรัฐอเมริกา (FDA)

การทดลองระยะนี้ จะเป็นการทดลองแบบสุ่ม และมีกลุ่มควบคุมยาหลอกแบบ 1 ต่อ 1 ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมผู้เข้าร่วมในสหรัฐ ราว 30,000 คน และคาดว่า จะดำเนินการร่วมกับสถาบันโรคภูมิแพ้ และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐ (NIAID) ภายใต้สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH)

รายงานเสริมว่า วัคซีนทดลองระยะที่ 3 ซึ่งจะให้ในปริมาณ 100 ไมโครกรัม จะช่วยให้บริษัทสามารถส่งมอบวัคซีนจำนวนประมาณ 500 ล้านโดส ต่อปี และอาจแตะ 1,000 ล้านโดสต่อปี โดยเริ่มในปี 2564

“เรามุ่งหวังที่จะเริ่มต้นการศึกษาวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ-1273 (mRNA-1273) ระยะที่ 3 ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมราว 30,000 คน ในเดือนกรกฎาคมนี้” ทัล ซักซ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของบริษัท ระบุ

“บริษัท มุ่งมั่นเดินหน้าการพัฒนาทางคลินิกของวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ-1273 ด้วยความปลอดภัยและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเผยความสามารถของวัคซีนของเราซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีนัยสำคัญ”

'วัคซีนโควิด-19'

ยุโรปหวังผลิตวัคซีนปลายปีนี้ 

ทางด้าน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของอิตาลี ระบุว่า ยุโรปก้าวมาอยู่ในแนวหน้าของโลกด้านการพัฒนาวัคซีนต้านโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลการวิจัยที่กำลังก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง อาจนำไปสู่วัคซีนโดสแรกภายในช่วงปลายปีนี้

“ยุโรปแซงหน้าสหรัฐ ในเรื่องวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว เรากำลังเตรียมพร้อม ที่จะดูแลการผลิตในอิตาลี” วอลเตอร์ ริชชีอาร์ดิ ที่ปรึกษาด้านการรับมือโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ช่องอาร์เอไอ 3

ริชชีอาร์ดิ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกรมสาธารณสุข รองหัวหน้าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพระหฤทัยคาธอลิกแห่งกรุงโรม และตัวแทนจากอิตาลี ในคณะกรรมการบริหารขององค์การอนามัยโลก (WHO) อธิบายว่า การทดสอบวัคซีน ที่ดำเนินการโดยห้างหุ้นส่วนแองโกล – อิตาลีนั้น อยู่ในช่วงการพัฒนาที่ก้าวหน้ากว่าโครงการอื่นๆ

“เราเคารพต่อเวลา ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เราอาจมีวัคซีนโดสแรกในยุโรป และอิตาลีช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวนี้” เขากล่าว

การวิจัยวัคซีนโรคโควิด-19 ของห้างหุ้นส่วนแองโกล – อิตาลีที่ริชชีอาร์ดิอ้างถึงนั้น ดำเนินการโดยบริษัทแอดเวนต์-ไออาร์บีเอ็ม ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโพเมเซีย ใกล้กับกรุงโรม และสถาบันเจนเนอร์ สังกัดมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักร

'วัคซีนโควิด-19'

ทีมแองโกล – อิตาลี ประกาศเริ่มต้น การทดสอบวัคซีน ในมนุษย์ ที่สหราชอาณาจักรเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน ซึ่งในเวลานั้น แอดเวนต์-ไออาร์บีเอ็มยังให้คำแนะนำด้วยว่าหากสถานการณ์เป็นไปด้วยดีตามคาด วัคซีนที่มีศักยภาพน่าจะพร้อมใช้งานสำหรับมนุษย์ในช่วงเดือนกันยายน

“เรากำลังเตรียมพร้อม ที่จะผลักดันอิตาลี ให้เป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำ ของการผลิตวัคซีนตัวนี้” ริชชีอาร์ดิกล่าว

ที่มา : สำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo