COVID-19

นักวิทย์พบ ‘ลามา’ มีแอนติบอดีพิเศษ ใช้ป้องกัน-รักษา ‘โควิด-19’ ได้

สัตว์เลี้ยงน่ารักขนตางอนจากภูมิภาคอเมริกาใต้ อย่างตัวลามา หรือ ยามา (Llama) ไม่ได้มีไว้เพื่อนำขนมาทอเป็นผืนผ้าแสนอบอุ่นเท่านั้น แต่เลือดยังมีสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดีชนิดพิเศษ ที่มนุษย์สามารถใช้เป็นต้นแบบ เพื่อสังเคราะห์วัคซีน และยายับยั้งฤทธิ์ไวรัสได้หลายชนิด ซึ่งล่าสุดยังพบว่าสามารถใช้ป้องกันและรักษาโรคจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อีกด้วย

06VIRUS LLAMAS1 jumbo
‘วินเทอร์’ (กลาง) ลามา แห่งมหาวิทยาลัยเกนท์ เบลเยียม

คณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ ภายใต้การนำของนักวิทยาศาสตร์  จากมหาวิทยาลัยเกนต์ของเบลเยียม และสถาบันวิจัยอีกหลายแห่งในสหรัฐ เผยแพร่ผลการศึกษาล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่า แอนติบอดีของลามา ซึ่งเคยใช้ยับยั้งการก่อโรคและลบล้างฤทธิ์ของไวรัสได้ผลมาแล้วหลายชนิด ทั้งกับไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่ โรคซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) มีประสิทธิภาพแบบเดียวกันในการป้องกัน และกำจัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ด้วย

การค้นพบครั้งนี้ต่อยอดจากงานวิจัยที่เริ่มขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน โดยทีมวิจัยจากเบลเยียมพบว่าแอนติบอดีจาก “วินเทอร์” ลูกลามาวัยสี่เดือนในขณะนั้น สามารถสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโรคซาร์ส และโรคเมอร์สให้กับเซลล์ของมนุษย์ ที่เพาะเลี้ยงในจานทดลองได้เป็นเวลานานถึง 6 สัปดาห์ และในครั้งนี้แอนติบอดีจากลามาตัวเดิม ก็สามารถยับยั้งไวรัสโรคโควิด-19 ในห้องปฏิบัติการได้เช่นกัน

การที่แอนติบอดีของลามามีขนาดเล็กกว่าของมนุษย์มาก จึงสามารถเข้าจับกับตัวรับบนหนามของไวรัสโคโรนาได้อย่างละเอียดทั่วถึง ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้สูงกว่า

นายแดเนียล แรปป์ นักศึกษาวิจัยระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเทกซัส วิทยาเขตออสติน สหรัฐ  หนึ่งในทีมผู้วิจัยบอกว่า

“ฉลามมีแอนติบอดีแบบนี้เหมือนกัน แต่เราคงจะทำการทดลองกับมันได้ยากอยู่ เทียบกันแล้วลามาเป็นสัตว์ว่าง่ายและน่ารักน่ากอดกว่าเยอะ หากมันไม่ชอบใครก็จะแค่ถ่มน้ำลายใส่เท่านั้น”

วัคซีนที่สังเคราะห์โดยใช้แอนติบอดีของลามาเป็นต้นแบบ สามารถทำให้เกิดภูมิคุ้มกันขึ้นในร่างกายได้ทันที ซึ่งต่างกับวัคซีนทั่วไปที่ต้องรอราว 1-2 เดือน นอกจากนี้ ยังอาจให้แอนติบอดีดังกล่าวกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพื่อลดความรุนแรงของอาการลงได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม วัคซีนนี้จะมีฤทธิ์ป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพียงชั่วคราว ราว 1-2 เดือนหลังได้รับวัคซีนเท่านั้น และจำเป็นจะต้องมีการฉีดซ้ำ

ดร. ซาเวียร์ แซเลนส์ นักไวรัสวิทยาโมเลกุลจากมหาวิทยาลัยเกนต์ของเบลเยียมบอกว่า “ยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน กว่าจะทำการทดสอบแอนติบอดีของลามาไปจนถึงขั้นทดลองในมนุษย์ได้ แต่หากมันได้ผล เจ้าวินเทอร์ก็สมควรจะมีอนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติกับเขาได้แล้ว”

ที่มา :  BBC

Avatar photo