สำนักข่าวเอ็นบีซีรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำเนียบขาวมีคำสั่งให้หน่วยงานข่าวกรองต่าง ๆ ของสหรัฐ นับตั้งแต่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานข่าวกรองทหาร รวมทั้งศูนย์ข่าวกรองด้านการแพทย์แห่งชาติ และซีไอเอ เร่งตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง ทั้งจากการดักฟังการสื่อสาร การรายงานจากแหล่งข่าว ภาพถ่ายดาวเทียม รวมทั้งจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อหาคำตอบว่าจีน และองค์การอนามัยโลก (WHO) จงใจปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ในช่วงแรก ๆ หรือไม่
หน่วยงานข่าวกรองต่าง ๆ ของสหรัฐได้รับมอบหมายภารกิจ ให้หาคำตอบว่า WHO ได้ทราบอะไรเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการทดลอง 2 แห่งในเมืองอู่ฮั่นของจีน ที่ศึกษาเกี่ยวกับเชื้อโคโรนาไวรัสด้วย
คำสั่งดังกล่าวของทำเนียบขาว สอดคล้องกับท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ออกมาระบุเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 เม.ย.)ว่า สหรัฐกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง และว่า รัฐบาลสหรัฐไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่าจีนสามารถยับยั้งเชื้อโคโรนาไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่นี้ได้ ในแหล่งที่เกิดตั้งแต่แรก
ช่วงหลังมานี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ มุ่งความสนใจกับเรื่องที่จีนไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสนี้ได้ตั้งแต่แรก และประธานาธิบดีทรัมป์เอง ก็ได้เปลี่ยนท่าทีจากการชมเชยจีนในช่วงแรก ๆ ว่ารับมือกับการระบาดได้เป็นอย่างดี มาเป็นการตำหนิโจมตีจีนอย่างรุนแรง หลังจากที่การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐส่งผลต่อเศรษฐกิจ
เอ็นบีซีรายงานด้วยว่า การกล่าวโทษจีนสำหรับปัญหาเศรษฐกิจนี้ดูจะใช้ได้ผลสำหรับฐานคะแนนเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางตอนกลางของประเทศ
นอกจากกล่าวโทษจีนแล้ว ผู้นำสหรัฐยังตำหนิ WHO ว่า ทำงานผิดพลาดในเดือนมกราคม จากการกล่าวว่าเชื้อนี้ไม่สามารถติดต่อจากคนถึงคนได้ รวมทั้งกล่าวหาว่าจีนมีอิทธิพลเหนือการทำงานขององค์การอนามัยโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ก็ชี้ว่า การโจมตีจีนกับองค์การอนามัยโลกเป็นความพยายามเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นจากความล้มเหลวและความล่าช้าของประธานาธิบดีทรัมป์เอง ในการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคนี้ในสหรัฐ
คำถามหนึ่งที่มีอยู่ขณะนี้ก็คือ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐ เมื่อเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ว่าอย่างไร
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า มีรายงานและการวิเคราะห์ด้านข่าวกรองของสหรัฐที่เตือนเกี่ยวกับโรคระบาดใหญ่นี้ รวมอยู่ในการบรรยายสรุปประจำวันสำหรับประธานาธิบดีทรัมป์ถึงกว่าสิบครั้งด้วยกันในช่วงต้นปี ซึ่งรวมถึงเรื่องความพยายามของจีนที่จะปกปิดข้อมูลด้วย
สำนักข่าวเอ็นบีซีรายงานเช่นกันว่า หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐเริ่มเห็นสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในเมืองอู่ฮั่นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยศูนย์ข่าวกรองด้านการแพทย์แห่งชาติของสหรัฐคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า เชื้อไวรัสนี้อาจจะลุกลามกลายเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก ก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะออกประกาศอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ไม่มีใครสามารถให้คำยืนยันได้ว่าผู้นำของสหรัฐได้รับทราบเรื่องนี้หรือไม่และเมื่อใด โดยประธานาธิบดีทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารเพียงแค่ว่า ตนจะต้องกลับไปตรวจสอบดูก่อนว่า คำเตือนจากหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐมีขึ้นเมื่อใด
ที่มา : VOA
- ‘เรือนจำสหรัฐ’ อ่วม ‘7 วัน’ นักโทษติด ‘โควิด-19’ พุ่ง 700%
- ทั่วโลกเสียชีวิต ‘โควิด-19’ ถึง 228,026 ราย ‘สหรัฐ’ ตายเกิน 6 หมื่น ‘อังกฤษ’ ดับมากสุดอันดับ 2 ยุโรป
- ระทึก!! นิวยอร์กติดเชื้อ ‘โควิด’ ทะลุ 3 แสนคนแล้ว