ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ดิ่งลงไปอยู่ในระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่ลดลง จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก
นอกจากนี้ ราคายังถูกกดดันจากการที่คลังน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ท่ามกลางภาวะน้ำมันล้นตลาด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ร่วงลง 55.90 ดอลลาร์ หรือ 306% จากราคาขายในช่วงเปิดตลาดที่ 12.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาปิดการซื้อขายที่ระดับติดลบ 37.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 8.94% ปิดที่ 25.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ในการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ (21 เม.ย.) ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียทดีดตัวขึ้น 38.19 ดอลลาร์ หรือ 101.49% จากราคาติดลบ 37.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาเคลื่อนไหวล่าสุดที่ระดับ 56 เซนต์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบร่วงลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาน้ำมันในตลาดไนเม็กซ์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า การที่รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งรวมถึงการสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และห้ามเดินทางเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันทรุดตัวลง
ขณะที่ รายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตือนว่า วิกฤตการณ์จากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ในเดือนเมษายนนี้ มีความต้องการใช้น้ำมันลดลง 29 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี เนื่องจากประเทศต่างๆ พากันออกมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังแสดงความเห็นว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถือว่าน้อยเกินไป และยังไม่มากพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบของความต้องการน้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
- คาด ‘ราคาน้ำมันดิบ’ ร่วงลงอีก เหตุ ‘OPEC+’ ลดกำลังการผลิตน้อยเกินไป
- รัสเซีย-สหรัฐ-ซาอุฯ ถกหยุดผลิตน้ำมันหลังราคาดิ่งถึงขีดสุด
- ปตท.สผ. ปรับแผน-บริหารต้นทุน พร้อมรับมือ ‘ราคาน้ำมันต่ำ’ ระยะยาว