โควิดจีน: “เฟาซี” เตือน จีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด เสี่ยงเพิ่มความกดดันให้กับระบบสาธารณสุขประเทศ และสร้างภาวะแวดล้อม ที่จะทำให้ทั่วโลกเสี่ยงเจอ “คลื่นแห่งการติดเชื้อ” สายพันธุ์ใหม่
ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า นพ.แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าคณะที่ปรึกษาการแพทย์ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ได้เรียกร้องให้ รัฐบาลจีนนำเข้าวัคซีนโควิดจากชาติตะวันตก ที่ใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าวัคซีนที่ผลิตในจีน เพื่อเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน และเพิ่มภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ
“ผมขอแนะนำให้พวกเขานำเข้าวัคซีนจากตะวันตก โดยเฉพาะวัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งใช้ในประเทศส่วนใหญ่ในโลก น่าเสียดายที่ วัคซีนดั้งเดิมของจีน ยังไม่มีประสิทธิภาพ ในระดับเดียวกับวัคซีนอื่น ๆ บางตัว”
นพ. เฟาซี ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดในกลุ่มประชากรสูงอายุของจีน รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยปัจจุบัน มีกลุ่มคนจีน ที่อายุมากกว่า 60 ปี ราว 85 ล้านคน ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
“หากพวกเขาไม่ยอมทำในเรื่องต่าง ๆ เช่น การณรงค์ในเชิงรุก ให้ประชาชนฉีดวัคซีนมากขึ้น การผ่อนคลายมาตรการ จะทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมาพร้อมกับความรุนแรงของโรค”
นพ.เฟาซี เตือนด้วยว่า การระบาดขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในจีน จะทำให้มีโอกาสที่เชื้อไวรัสโควิด จะกลายพันธุ์เกิดสายพันธุ์ขึ้นมา
“ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ที่เกิดการระบาดขนาดใหญ่ของเชื้อไวรัส ก็จะเป็นการเปิดทางให้เกิดการกลายพันธุ์ และเมื่อคุณให้โอกาสไวรัสในกลายการพันธุ์ ก็จะเป็นการเปิดทางสำหรับการเกิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา และนั่นก็จะส่งผลกระทบต่อทั่วโลก”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รองนายกฯ จีน ร้อง ปรับปรุงมาตรการคุมโควิด
- ไขข้อข้องใจ ‘โควิดจีน’ ทำไมถึงกลับมาระบาดอีก
- หมดหวังเปิดประเทศ! ‘จีน’ ยืนยัน ยึดมั่นนโยบาย ‘โควิดเป็นศูนย์’
