ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับขึ้นเล็กน้อย แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการจัดหาน้ำมันตึงตัวของผู้อำนวยการไออีเอ
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 85.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนเดียวกัน ราคาเพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.9% สู่ระดับ 110.9500
การอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้น้ำมันดิบ ซึ่งกำหนดราคาซื้อขายเป็นดอลลาร์นั้น ถูกลง และน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนการเข้าซื้อ หลังนายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหาร สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เตือนว่า ตลาดก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ตึงตัว และการที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ปรับลดกำลังการผลิตลงนั้น ได้ส่งผลให้โลกเผชิญวิกฤติพลังงานที่แท้จริง
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ในวันนี้ โดยคาดว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ตุลาคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พลังงานสากล ชี้ โลกเจอ ‘วิกฤติพลังงานที่แท้จริง’ เป็นครั้งแรก
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด น้ำมันดิบ ราคาดีดถึง 115 ดอลลาร์ ต้นปี 66 เหตุ ‘โอเปคพลัส’ ลดผลิตครั้งใหญ่