ผู้อำนวยการ “สำนักงานพลังงานสากล” ชี้ โลกกำลังอยู่ท่ามกลาง ภาวะวิกฤติพลังงานระดับโลก ที่แท้จริง เป็นครั้งแรก หลังตลาดก๊าซแอลเอ็นจี อยู่ในภาวะตึงตัวทั่วโลก และบรรดาผู้ผลิตน้ำมัน พากันลดกำลังผลิต
นายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) แสดงความเห็นว่า การที่ยุโรปนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นเจี) เพิ่มขึ้น ท่ามกลางวิกฤตการณ์สงครามในยูเครน และความต้องการใช้เชื้อเพลิงในจีน ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นนั้น จะส่งผลให้ตลาดเผชิญภาวะตึงตัว โดยจะมีก๊าซแอลเอ็นจีล็อตใหม่เข้าสู่ตลาดเพียง 20,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในปีหน้า
นอกจากนี้ การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือ โอเปคพลัส ได้ตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรลต่อวันนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่มีความเสี่ยง โดย ไออีเอคาดว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะอยู่ที่ระดับราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้
“เรื่องนี้ถือเป็นความเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะถดถอย และหากเรากำลังพูดถึงภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ผมคิดว่าการตัดสินใจของโอเปคพลัสในครั้งนี้ ถือเป็นความโชคร้ายจริง ๆ”
อย่างไรก็ดี นายไบรอลกล่าวว่า วิกฤติพลังงานในปัจจุบันจะทำให้ประวัติศาสตร์พลังงานโลกมาถึงจุดเปลี่ยน เพราะจะทำให้การหาแหล่งพลังงานสะอาด และการสร้างระบบพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ความมั่นคงด้านพลังงานเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ในขณะที่หลายประเทศมองว่าเทคโนโลยีด้านพลังงานและพลังงานทดแทนถือเป็นแนวทางที่จะสามารถแก้ปัญหาวิกฤตพลังงาน”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พลังงานสากล’ คาด ปี 66 ‘ตลาดก๊าซ’ ทั่วโลก ยังตึงตัว เหตุ ‘การจัดหา’ มีปัญหา
- ‘รัสเซีย’ โต้กลับแรง! ระงับส่งก๊าซให้ยุโรป จนกว่าจะยกเลิกคว่ำบาตร
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง
