ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วงลงอย่างหนัก หลังมีรายงานว่า สหรัฐเตรียมระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคา
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.64 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธันวาคม ราคา ลดลง 1.59 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 90.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรอง SPR ในสัปดาห์นี้ เพื่อสกัดราคาที่พุ่งขึ้น ก่อนถึงกำหนดการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 8 พฤศจิกายน
ประธานาธิบดีไบเดน ตัดสินใจเคลื่อนไหวดังกล่าว หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ในช่วงต้นเดือนนี้ แม้ผู้นำสหรัฐ จะพยายามกดดันซาอุดีอาระเบีย และโอเปคพลัส ให้เพิ่มกำลังการผลิต เพราะกังวลว่า ราคาที่พุ่งขึ้น จะกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนหน้า
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน รวมทั้งการที่รัฐบาลจีนเลื่อนการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจออกไปโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด น้ำมันดิบ ราคาดีดถึง 115 ดอลลาร์ ต้นปี 66 เหตุ ‘โอเปคพลัส’ ลดผลิตครั้งใหญ่
- ไม่สนแรงกดดัน! ‘โอเปคพลัส’ หั่นกำลังผลิตน้ำมันวันละ 2 ล้านบาร์เรล หวังดันราคา
- ‘ไออีเอ’ ชี้ ‘รัสเซีย’ ผลิตน้ำมันมากเกินคาด แต่ ‘มาตรการคว่ำบาตร’ เริ่มกระทบ