World News

‘ราคาน้ำมัน WTI’ พุ่งทะลุ 82 ดอลลาร์ แรงหนุน ‘สต็อกน้ำมันดิบ’ ลด ‘เงินดอลลาร์’ อ่อนค่า

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น พุ่งแรงเกือบ 4 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันยังคงฟื้นตัว

นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจาก “เงินดอลลาร์” อ่อนค่า และผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเอียน ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก แหล่งผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งของสหรัฐ

ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน พุ่งขึ้น 3.65 ดอลลาร์ หรือ 4.7% ปิดที่ 82.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 3.05 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 89.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมัน

ตลาดได้แรงหนุนขาขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 215,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 443,000 บาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 709,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์ และน้ำมันดีเซลลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 69,000 บาร์เรล

ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 1.31% สู่ระดับ 112.6080 เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า พายุเฮอร์ริเคนเอียน ซึ่งขณะนี้ทวีความรุนแรงเป็นพายุระดับที่ 4 อาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันของสหรัฐในอ่าวเม็กซิโก

ข้อมูลจากสำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ ระบุว่า ณ วันพุธที่ 28 กันยายน การผลิตน้ำมันประมาณ 9.12% และการผลิตก๊าซธรรมชาติประมาณ 5.95% ในอ่าวเม็กซิโกได้ปิดทำการเนื่องจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนเอียน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo