นักลงทุนคาด “ธนาคารกลางสหรัฐ” ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น และปรับขึ้นอีก 0.75% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่จะผ่อนคันเร่ง ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84% ที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มาอยู่ที่ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายน และให้น้ำหนัก 64.3% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พฤศจิกายน
ขณะเดียวกัน ให้น้ำหนัก 46.8% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม
หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาดดังกล่าว จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันถึง 4 ครั้ง ในการประชุมเดือนมิถุนายน กรกฎาคม กันยายน และพฤศจิกายน และทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะระดับ 4.50% ในช่วงสิ้นปีนี้ สูงกว่าระดับ 2.50% ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่เฟดมองว่าเป็นกลาง โดยไม่ผ่อนคลายหรือเข้มงวดจนเกินไป
ผลการสำรวจของสำนักข่าว CNBC ระบุว่า นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย จนแตะระดับสูงสุด และจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไประยะหนึ่ง โดยเฟดจะใช้มาตรการดอกเบี้ยแบบ “ขึ้นแล้วคงที่” (hike and hold) แทนที่จะใช้มาตรการ “ขึ้นแล้วลง” (hike and cut) ตามที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์ยังคาดว่า เฟดจะประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันนี้ และจะยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อไป จนแตะระดับ 4.26% ในเดือนมีนาคม 2566 โดยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นเวลาเกือบ 11 เดือน ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของบรรดานักวิเคราะห์ ที่คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือนไปจนถึง 2 ปี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาด ‘เฟด’ เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ถึง มี.ค. 66 ก่อนคงดอกเบี้ยยาวเกือบ 1 ปี
- อย่าเอาอย่างเฟด ‘นฤมล’ แนะไทยขึ้นดอกเบี้ย ‘ค่อยเป็นค่อยไป’ ป้องกันนักลงทุนช็อก โยกเงินหนี
- ‘พาวเวล’ ลั่นเดินหน้าสู้ ‘เงินเฟ้อ’ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ‘ครั้งใหญ่’ ก.ย.นี้
